ตร.ไทย-จีนร่วมปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนใช้จว.ท่องเที่ยวในไทยเป็นฐานหลอกชาติเดียวกัน

กรุงเทพฯ 23 ก.ค.- ตำรวจไทย-จีน ร่วมปราบปรามเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ และพนันออนไลน์ หลังพบชาวจีนใช้จังหวัดท่องเที่ยวสำคัญของไทยตั้งฐานหลอกลวงชาวจีนแผ่นดินใหญ่ จนมีผู้เสียหายคนจีนผูกคอตาย   พร้อมยึดของกลางจำนวนมาก มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท


พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยผลปฏิบัติการร่วมระหว่างตำรวจไทย-จีน ในการปราบปรามเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ และพนันออนไลน์ ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ 4 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี และภูเก็ต รวม 14 จุด สามารถจับผู้ตัองหาได้รวม 34 คน แบ่งเป็นชาวจีน 26 คน / ชาวเมียนมา 4 คน / บุคคลไร้สัญชาติ 3 คน และชาววานูตู 1 คน ซึ่งทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหา หลบหนีเข้าเมือง และอยู่เกินกฎหมายกำหนด พร้อมยึดทรัพย์สินได้หลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ 56 เครื่อง / ธนบัตรสกุลไทย กว่า 20 ล้านบาท / ธนบัตรสกุลเงินต่างประเทศ ประเทศต่าง ๆ กว่า 10 ล้านบาท / โทรศัพท์มือถือ / ซิมโทรศัพท์ / นาฬิกา และโฉนดที่ดิน

พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า การจับกุมนี้ สืบเนื่องจาก รัฐบาลจีน ได้ประสานทางการไทย ให้ร่วมกวาดล้างเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ที่มาตั้งฐานในไทย โทรศัพท์ไปหลอกลวงคนจีนในประเทศจีน ทำให้มีผู้เสียหายคนหนึ่งที่อยู่ระหว่างตกงาน ในมณฑลจี้หลิน สูญเงินเก็บไปจำนวน 2.5 ล้านบาท ถึงขั้นสิ้นเนื้อปะดาตัวและคิดสั้นผูกคอตาย นอกจากนี้ ยังใช้ไทยเป็นฐานในการปั่นหุ้นตลาดหลักทรัพย์จีน  สร้างความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งจะพบว่า การตั้งฐานกระทำผิดในไทย ส่วนใหญ่ จะอยู่ในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ เนื่องจาก มีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และเทคโนโลยีทันสมัย ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการผลักดันส่งกลับผู้ต้องหาชาวต่างชาติ พร้อมประสานขอรับคนไทยอีก 6 คน ที่ถูกจับในประเทศจีน กลับมาดำเนินคดีในไทยต่อไป


พล.ต.ต.สุรเชษฐ์  ระบุด้วยว่า ในไทยขณะนี้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เกือบไม่มีแล้ว  แต่แก๊งโรแมนซ์สแกม ยังเกิดขึ้นแบบวันเว้นวัน ซึ่งต้องเร่งกวาดล้างจับกุม

นายเอนก ยั่งยืน ผู้อำนวยการฝ่ายตรวจสอบตลาดทุน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) กล่าวว่า การจับครั้งนี้ พบมีลักษณะการปั่นหุ้นตลาดหลักทรัพย์ของจีน จึงต้องตรวจสอบว่า เข้าข่ายการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ในประเทศไทยหรือไม่ พร้อมหารือกับทางการจีน ว่าจะสามารถดำเนินการในข้อหาใดได้บ้าง ที่แน่ๆ ฝ่ายไทยจะรวบรวมหลักฐานการปั่นหุ้นส่งให้ทางการจีนไปดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารทำร้าย

ทบ.ตั้ง กก.สอบปมกรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชา

“ธนเดช” เผย กมธ.ทหาร รับเรื่องร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา ขณะ ทบ. ตั้งกรรมการสอบแล้ว หวังเป็นตัวอย่างการลงโทษผู้บังคับบัญชาระดับสูงหากพบผิดจริง

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นพร้อมดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นหากได้รับถ่ายโอน อบจ.ปทุมฯ พร้อมจัดงบดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน หลังขาดพื้นที่ออกกำลังกาย แต่จะกระทบความมั่นคงหรือไม่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องคุยกันต่อ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ถก ก.ตร. จับตาแต่งตั้งนายพลสีกากี 25 ตำแหน่ง

นายกฯ นั่งประธานประชุม ก.ตร. จับตาแต่งตั้งนายพล ระดับ “รอง ผบ.ตร.-ผู้ช่วย ผบ.ตร.-ผู้บัญชาการ” รวม 25 ตำแหน่ง กำชับพิจารณาให้รอบคอบ-ตรงกรอบกฎหมาย

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

ยิ่งลักษณ์ขอกลับไทย

“มาริษ” แจง “ยิ่งลักษณ์” ไม่ได้ประสาน กต. ขอกลับไทย

“มาริษ” รมว.ต่างประเทศ เผยยังอยู่ระหว่างพิจารณาบุคคลเป็นคณะกรรมการ JTC ย้ำจะทำให้เร็วที่สุด แจง “ยิ่งลักษณ์” ไม่ได้ประสาน กต. ขอกลับไทย ไม่รู้ “ทักษิณ” ถือกี่สัญชาติ