กรุงเทพฯ 10 ก.ค.- รวบยกแก๊งเจาะตู้เอทีเอ็ม กวาดเงินกว่า 2 ล้านบาท ก่อนแบ่งเงินแยกย้ายหลบหนี สารภาพศึกษาวิธีการโจรกรรมมาจากโซเชียล
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 แถลงจับกุมเครือข่ายโจรกรรมตู้เอทีเอ็ม โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 4 คน พร้อมของกลางรถยนต์ 3 คัน ถังแก๊สพร้อมหัวตัดและอุปกรณ์เจาะตู้เอทีเอ็ม 1 ชุด โทรศัพท์ 5 เครื่อง ทองคำรูปพรรณ 15 บาท และเงินสดอีกกว่า 300,000 บาท
โดยพฤติการณ์ผู้ต้องหาจะร่วมกันออกตระเวนลักตู้เอทีเอ็มในพื้นที่หลายจังหวัด อาทิ สระบุรี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี เบื้องต้นสารภาพทำมาแล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 จนเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.วังน้อย ได้รับแจ้งพบซากรถกระบะถูกไฟไหม้ บริเวณถนนคันคลองชลประทาน เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นรถคันเดียวกับที่คนร้ายใช้ก่อเหตุลักตู้เอทีเอ็ม เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยลักตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพ ได้เงินไปกว่า 2 ล้านบาท แล้วไปก่อเหตุลักตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ แต่ระหว่างที่กำลังก่อเหตุ มีประชาชนจะมาใช้บริการ คนร้ายจึงเก็บอุปกรณ์และขับรถหลบหนี แต่รถติดหล่มและเกิดไฟลุกไหม้ จึงทิ้งรถหลบหนี ประกอบกับมีหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายขณะก่อเหตุไว้ได้ เป็นเบาะแสให้ฝ่ายสืบสวนจับกุมนายบุญญฤทธิ์ แก้วมณี หรือ เจ ได้ที่ย่านสายไหม เมื่อวานนี้ ก่อนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน
ตรวจสอบประวัติพบว่า 3 ใน 4 คนร้ายหลบหนีหมายจับฐานโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ก่อนศึกษาวิธีการโจรกรรมตู้เอทีเอ็มมาจากโซเชียล ส่วนเงินที่ได้จะนำไปใช้จ่ายส่วนตัว ซื้อทรัพย์สินและชำระหนี้พนัน
อย่างไรก็ตาม การแถลงข่าวในวันนี้ เจ้าหน้าที่ธนาคารที่ได้รับความเสียหายได้เดินทางมาตรวจสอบยืนยันทรัพย์สิน และตำรวจได้เปิดภาพวงจรปิดขณะคนร้ายกำลังลงมือก่อเหตุให้กับสื่อมวลชนด้วย.-สำนักข่าวไทย
