ลูกบุญธรรมสารภาพลั่นไกใส่พ่อ ฉุนถูกกล่าวหาขโมยเงิน

สมุทรสงคราม 27 ม.ค.- ลูกบุญธรรมยอมรับสารภาพ เป็นคนลั่นไกฆ่าพ่อ หลังถูกตำรวจเค้นสอบ อ้างโมโหพ่อหาว่าขโมยเงินไป 15,000 บาท และไม่ชอบที่พ่อชอบสั่งสอน ตักเตือน


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรสงคราม ตำรวจเข้าตรวจสอบพบร่างนายสมพูน อายุ 65 ปี เสียชีวิตอยู่บนที่นอนสระผม ในสภาพนุ่งกางเกงขาสั้นไม่สวมเสื้อ บริเวณกกหูซ้ายพบรูกระสุน 1 รู มีเลือดไหลออกจากหูทั้ง 2 ข้าง มือซ้ายจับอยู่บริเวณกกหูซ้าย มือขวาวางบนหน้าอก ที่พื้นฝั่งซ้าย พบปืนดัดแปลงตกอยู่ 1 กระบอก ภายในลำกล้องมีกระสุนขนาด .38 จำนวน 1 ลูก แต่ไม่พบปลอกกระสุน รวมถึงหัวกระสุนที่ปลิดชีพนายสมพูน ที่สำคัญมีร่องรอยการใช้น้ำล้างทำความสะอาดคราบเลือด 

ลักษณะของที่เกิดเหตุ ตำรวจพบพิรุธ โดยเฉพาะคำให้การของนายสมพล ลูกบุญธรรมของผู้ตาย เพราะลูกบุญธรรมเล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แต่ให้การว่าพ่อเป็นโรคกระเพาะ กรดไหลย้อน ปวดท้องเป็นประจำ และเป็นโรคซึมเศร้าจากการที่ภรรยาเสียชีวิตไป เมื่อกุมภาพันธ์ปี 65 ประกอบกับตัวเอง (ลูกบุญธรรม) ไปทำงานกลับบ้านดึกทุกวัน แม้พ่อเลี้ยงหมาไว้ 2 ตัว แต่ไม่ช่วยให้พ่อหายซึมเศร้า โดยเฉพาะระยะหลังมักไปบ่นกับเพื่อนบ้านว่าเหงา ตอนเกิดเหตุตนออกไปทำงานพอกลับถึงบ้าน เห็นพ่อกลายเป็นศพ ส่วนบนพื้นมีคราบเลือดจำนวนมาก จึงรีบล้างคราบเลือดและโทรแจ้งตำรวจ


นอกจากนี้ ตำรวจยังพบพิรุธท่าทางการนอนเสียชีวิตของผู้ตาย ปืนตกอยู่ด้านซ้าย เท่ากับว่า ยิงตัวตายด้วยมือซ้าย แต่มือซ้ายกุมบริเวณหูซ้าย ทั้งๆ ที่ปกติ การยิงปืนต้องมีแรงสะบัด มือควรต้องตกลงมาห้อยอยู่ข้างลำตัว แต่ในเมื่อลูกบุญธรรมให้การแบบนี้ ทำให้ต้องส่งร่างขันสูตร หาวิถีกระสุน และตรวจคราบเขม่าดินปืน 

ขณะเดียวกัน ตำรวจยังไล่ถามชาวบ้าน ขอดูกล้องวงจรปิดทำให้พบว่ามีบ้านหลังหนึ่ง แม้จับภาพนาทีเกิดเหตุไม่ได้ แต่ได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัดชัดเจน ซึ่งตอนนั้นเจ้าของกล้องบอกตอนได้ยินไม่รู้ว่าเป็นเสียงปืน แต่ที่แน่ๆ ทั้งคนทั้งแมว ต่างก็ตกใจ และผู้ตายเป็นคนเงียบๆ นิสัยดี เป็นเซียนส่องพระ ลูกแท้ๆ ไม่มี มีแต่ลูกบุญธรรม และที่ผ่านมาได้ยินลูกบุญธรรมทะเลาะกับพ่อบ่อยครั้ง

เบื้องต้น ตำรวจจึงพาตัวลูกบุญธรรมไปเค้นสอบ กระทั่งสุดท้ายเจ้าตัวยอมรับเป็นเจ้าของปืนที่พ่อใช้ฆ่าตัวตาย แต่ยังปฏิเสธว่าเป็นคนลั่นไกสังหารพ่อ ตำรวจจึงแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตไว้ก่อน หลังเค้นสอบข้ามวัน ลูกบุญธรรม ยอมรับสารภาพ เป็นคนลั่นไกฆ่าพ่อ แล้วจัดฉากว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ส่วนมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุคือ โมโหที่พ่อกล่าวหาว่าตนขโมยเงินไป 15,000 บาท ตำรวจจึงแจ้งข้อหาเพิ่ม คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และหากพบหลักฐานการกระทำผิดอีกจะแจ้งข้อหาเพิ่ม จากนั้นคุมตัวนายสมพล ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้การสมภพยัง บอกว่า การเค้นสอบล่าสุด ยังทำให้ทราบอีกว่าลูกบุญธรรมไม่ได้โมโหแค่เรื่องถูกกล่าวหา แต่ยังไม่ชอบที่พ่อชอบสั่งสอน ตักเตือน จึงไปซื้อปืนดัดแปลงแบลงค์กัน จากตลาดมาใช้ก่อเหตุ.–สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”