ดูไบ 22 ก.ย. – บริษัทแอร์บัสและโบอิง สองผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐให้จำหน่ายเครื่องบินพาณิชย์ภายใต้ข้อตกลงซื้อ-ขายมูลค่ารวมราว 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.73 ล้านล้านบาท) ให้แก่สายการบินของอิหร่านได้แล้ววานนี้
บริษัทแอร์บัส ผู้ผลิตเครื่องบินพาณิชย์ยักษ์ใหญ่ของยุโรปประกาศว่า ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศสังกัดกระทรวงการคลังของสหรัฐ ให้สามารถจัดจำหน่ายเครื่องบินพาณิชย์ให้แก่สายการบินของอิหร่านได้เมื่อช่วงเช้าวานนี้ ขณะที่บริษัทโบอิงก็ประกาศในเวลาต่อมาว่า ได้รับใบอนุญาตเช่นกัน โฆษกบริษัทแอร์บัสเผยว่า ทางบริษัทสามารถจัดจำหน่ายเครื่องบินโดยสารล็อตแรก ประกอบด้วย เครื่องบิน เอ320 และ เอ330 จำนวน 17 ลำ ให้แก่สายการบินอิหร่านแอร์ภายใต้การอนุมัติในครั้งนี้ และทางบริษัทหวังว่าจะได้รับใบอนุญาตที่ 2 จากรัฐบาลสหรัฐให้สามารถส่งมอบเครื่องบินที่เหลือตามข้อตกลงซื้อ-ขายกับสายการบินอิหร่านแอร์ได้ในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ บริษัทแอร์บัสจำเป็นต้องได้รับใบอนุญาตจากทางการสหรัฐ เนื่องจากชิ้นส่วนประกอบเครื่องบินอย่างน้อยร้อยละ 10 มาจากสหรัฐ
เมื่อเดือนมกราคม สายการบินอิหร่านแอร์ลงนามตกลงสั่งซื้อเครื่องบินพาณิชย์จำนวน 118 ลำจากบริษัทแอร์บัส ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 22,800 ล้านยูโร (ราว 887,000 ล้านบาท) ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ สถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่านรายงานว่า รัฐบาลอิหร่านจะลดจำนวนการสั่งซื้อลงเหลือ 112 ลำ นอกจากการตกลงสั่งซื้อเครื่องบินจากบริษัทแอร์บัสแล้ว อิหร่านแอร์ยังสั่งซื้อเครื่องบินอีก 80 ลำจากบริษัทโบอิง โดยมีกำหนดส่งมอบในช่วงต้นปี 2560 จนถึง 2568 นอกจากนี้ ยังจะเช่าซื้อเครื่องบินโบอิง 737 ลำใหม่อีก 29 ลำ รวมมูลค่าซื้อ-ขายที่เจ้าหน้าที่อิหร่านประเมินเป็นเงิน 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 867,000 ล้านบาท)
การออกใบอนุญาตให้บริษัทแอร์บัสและโบอิงจำหน่ายเครื่องบินพาณิชย์ให้กับอิหร่านมีขึ้น ขณะที่ผู้นำของสหรัฐและอิหร่านเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่รัฐนิวยอร์ก อย่างไรก็ดี โฆษกของกระทรวงการคลังสหรัฐแถลงว่า ใบอนุญาตดังกล่าวมีข้อกำหนดให้เครื่องบินทุกลำที่จำหน่ายให้แก่อิหร่านใช้ในเชิงพาณิชย์เท่านั้น โดยห้ามนำมาขายต่อ หรือเปลี่ยนผู้ถือครอง.-สำนักข่าวไทย