กทม.6 ก.ค.-เปิดเวทีเสวนาพบกลุ่มผู้ใช้แรงงานยิ่งมีเงินยิ่งมือเติบ ผู้สูญเงินติดพนันบอลหนี้ครึ่งล้านฝากอุทาหรณ์เลิกพนันไม่ยาก พร้อมจี้รัฐบาลเร่งคลอด คกก.ควบคุมการพนันแห่งชาติ
มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) จัดเวทีเสวนา“นับถอยหลัง 8 แมตช์อันตราย เหยื่อพนันจะเลี่ยงหรือจะเสี่ยง?”นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า ฟุตบอลโลก 2018 เหลือ 8 แมตช์สุดท้ายชี้ชะตา ซึ่งน่าห่วงว่ากระแสชวนพนันอาจขึ้นสูงไม่เฉพาะเด็กเยาวชน แต่กลุ่มคนวัยทำงานยิ่งมีเงินยิ่งมือเติบและเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่เล่นพนันบอลมากกว่ากลุ่มเด็กเยาวชน ทั้งจำนวนคนเล่นและจำนวนเงินที่ใช้เล่น
“คนเล่นพนันบอลที่เสียตั้งแต่เริ่มเล่น มักเล่นไม่นานก็เลิก แต่คนที่เล่นแล้วได้ในตอนแรก มักได้ใจและเล่นต่อจนถลำลึก เข้าทำนองไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ซึ่งมีประมาณ 6 โลง คือ 1.การงานย่ำแย่เพราะเอาสมาธิและเวลางาน เวลาเรียนไปหมกมุ่นกับการคิดและหาข้อมูลเล่นพนันบอล 2. แพ้พนันจนเพลียเพราะที่ผ่านมาเชื่อว่าโชคต้องเข้าข้าง แต่วันนั้นก็ไม่มาถึงเสียที 3.เสียจนหมดตัว เพราะพนันบอลมักจะเดิมพันสูง บางคนเล่นคู่ละหลักหมื่นขึ้นไป ยิ่งเสียมากในคู่ก่อนๆ ยิ่งทำให้ทุ่มหมดหน้าตักในคู่ต่อไป จนเสียหายหนัก 4.กลัวเขามาอุ้ม เป็นอาการของนักพนันที่ไปกู้หนี้นอกระบบมา และยังเคลียร์ไม่ได้ ก็กังวลว่าจะโดนอุ้มไปทำร้าย 5.กลุ้มคุกทุกข์เข็ญ คือกลุ่มที่กังวลว่าจะถูกเจ้าหน้าที่สืบสาวมาจนถึงตนเองว่าเป็นผู้เล่นพนัน และมีโทษตามกฎหมายถูกจำคุก และ6.เห็นหายนะเพื่อนคือเริ่มเห็นเพื่อนที่เล่นพนันมาด้วยกันประสบผลเสียหาย เช่น ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกออกจากงาน หรือประสบปัญหาครอบครัว”นายธนากร กล่าว
นายภาคภูมิ สุกใส ประธานสหภาพแรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ กล่าวว่า ปัญหาการพนันในกลุ่มผู้ใช้แรงงานยังคงน่าห่วงไม่เฉพาะบอลโลก แต่บอลทุกฤดูเอื้อต่อการเล่นพนันได้ ปัญหาใหญ่คือการจัดการเรื่องเงินของผู้ใช้แรงงานมักไม่เป็นระบบ สิ้นเดือน กลางเดือน ต้องมาใช้หนี้บัตรเครดิต เพราะกดไปเล่นพนันบอล ส่งผลให้ไม่มีเงินเก็บคุณภาพชีวิตก็ย่ำแย่ สุดท้ายกลายเป็นภาระของลูกหลาน หลังจากบอลโลกจบต้องจับตาดูว่าจะมีคนอีกจำนวนมากที่ถูกตามเช็คบิลตามทวงหนี้พนันบอล ฝากรัฐบาลทำการบ้านเร่งหาแนวทางป้องกันและหยุดปัญหาการพนันให้ได้
“ต้องยับยั้งสื่อโฆษณาที่โหมกระตุ้นให้เกิดการเล่นพนัน โดยเฉพาะที่มากับสื่อออนไลน์ มือถือ ตอนนี้เว็บไซต์หรือหน้าเพจที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก มักพบว่ามีป๊อบอัพของเว็บพนันโผล่ขึ้นมาชักจูงใจให้เล่น ซึ่งตรงนี้ต้องเร่งจัด การ ไม่ใช่แค่ลุยกันเฉพาะช่วงบอลโลกเป็นแค่ไฟไหม้ฟาง ในส่วนองค์กรแรงงานอยากเห็นรัฐบาลนี้กล้าหาญ ตั้งคณะกรรมการควบคุมการพนันแห่งชาติขึ้นมา เพราะไม่ว่าจะเป็นการพนันรูปแบบไหนก็ต้องถูกจัดการและควบคุมด้วยคณะกรรมการชุดนี้ เป็นเจ้าภาพ’ นายภาคภูมิ กล่าว
นายเอ๊กซ์ (นามสมมติ) หนุ่มโรงงาน กล่าวถึงประสบการณ์ที่เสียหายกับการพนันฟุตบอล ว่า เริ่มจากเล่นตามเพื่อน ๆ ในโรงงาน ค่อยๆ ขยับจากแทงบอลชุด 50 บาท ย่ามใจมาแทงบอลเดี่ยวคู่ละหลักร้อย แทงปากเปล่า2 อาทิตย์เคลียร์กันที จนมาเสียหนักในคืนเดียวราว 5 หมื่นบาท พยายามเล่นหวังจะเอาเงินคืน ช่วงนั้นเสียไปมากกว่า 5 แสน ต้องกู้เงินทุกวิถีทาง ทั้งบัตรเครดิตต่างๆ ทั้งเงินกู้นอกระบบ จนมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ คือย่า ผู้ที่เลี้ยงมา ป่วยแต่มีเงินไม่พอรักษาเพราะเงินที่ย่ามีก็เอามาช่วยใช้หนี้พนัน ย่าเสียชีวิตโดยที่ตนช่วยอะไรได้ บ้านและที่ดินต้องขายเอาเงินมาใช้หนี้พนัน จึงก้มกราบเท้าย่าและตั้งใจเลิกเล่นพนันตั้งแต่นั้นมา
“กว่าจะใช้หนี้พนันหมดก็หลายปี ส่วนที่เป็นหนี้นอกระบบก็ต้องหนี เพราะถูกขู่จะทำร้าย ไม่กล้ากลับบ้าน เก็บตัวอยู่ในหอพัก ไม่มีแม้เงินจะซื้อข้าวกิน การเลิกพนันอยู่ที่ใจล้วนๆ ถ้าตั้งใจจริงเราเลิกได้ เพื่อนไม่โกรธ ไม่เลิกคบ คนใกล้ชิดมีอิทธิพลมาก ถ้าอยู่ในสังคมที่เพื่อนร่วมงานเล่นพนัน เราต้องเข้มแข็งกล้าปฏิเสธ สถานที่ทำงานต้องหาทางตัดตอนไม่ให้มีคนกลางมาชวนเล่นพนันและควรส่งเสริมให้พนักงานมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนแบ่งปันประสบการณ์ชีวิต และสนับสนุนให้มีระบบการดูแลกันและกัน ทุกวันนี้มีโอกาสจะพยายามแนะนำน้องๆ ที่ทำงานเสมอ ดูบอลเป็นกีฬา คุยกันวิเคราะห์ผลกันได้ แต่ไม่จำเป็นต้องเล่นพนัน” นายเอ๊กซ์ กล่าว
น.ส.หนึ่ง(นามสมมติ) อายุ 32ปี กล่าวถึงกรณีที่คนในครอบครัวเล่นพนันบอลจนเกิดผลกระทบว่า พ่อมีอาชีพเปิดร้านขายของเล็ก ๆในชุมชน กิจการพออยู่ได้มาตลอด สักพักเริ่มมาเอ่ยปากยืมเงินจากแม่ จนสุดท้ายขอยืมจากตน เมื่อผิดสังเกตจับได้ว่าพ่อเอาเงินไปเล่นพนันบอล ทั้งรับแทงพนันจากพนักงานบริษัทแถวนั้นแล้วส่งต่อโต๊ะใหญ่ และเล่นพนันเองด้วยจากแทงบอลชุดขยับมาแทงบอลเดี่ยวพอไม่พอใช้ก็มาขอยืมเงินจากตน รวมทั้งให้ไปช่วยค้ำประกันเงินกู้จากคนรู้จักแถวบ้าน ทำให้ตนกับสามีทะเลาะกัน เมื่อไม่พอใช้หนีพนันห้าแสนก็ต้องขายทุกอย่างในบ้าน สุดท้ายพ่อเลิกเล่นพนันบอลและทำงานหนักทั้งที่อายุ 54 แล้ว เงินเดือนที่ได้นำมาใช้หนี้ทั้งหมด
“ด้วยความที่เป็นพ่อ ทำให้ลูกไม่อยากเข้าไปยุ่งในตอนแรกที่รู้ว่าเริ่มเล่นพนันบอล แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว ลูกๆ เข้าไปดูแลจัดการเรื่องเงินแทนทั้งหมด พ่อเป็นคนขี้เหนียว ไม่คิดว่าจะพลาดขนาดนี้ ทุกวันนี้มาทำงานที่เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน ทำให้พ่อหยุดยั้งตัวเองได้ คนแถวนั้นที่เคยเป็นลูกค้าแทงบอลกับพ่อ ได้เห็นป้าย เห็นสื่อรณรงค์หยุดพนันก็หยุดยั้งมีสติกันมากขึ้น แม้ยังมีเล่นพนันกันอยู่บ้างแต่ก็เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น” น.ส.หนึ่ง กล่าว .-สำนักข่าวไทย