กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – ค่ายน้ำมันบางจากฯ-ปตท ใช้ธุรกิจ non-oil ร่วมรณรงค์ลดใช้ขยะพลาสติกในไทยที่มีกว่า 2 ล้านตันต่อปี
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากฯ ได้รณรงค์ต่อเนื่องมาไม่ต่ำกว่า 2 ปีแล้ว โดยหากลูกค้านำแก้วมาเองมาซื้อเครื่องดื่มในร้านอินทนิลก็จะลดราคา 5 บาท และแก้วในการจำหน่ายเครื่องดื่มก็เป็นพลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้ และเมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) ในวันปลอดถุงพลาสติกก็ได้รณรงค์ใช้ถุงผ้าและเริ่มนำถุงกระดาษมาให้บริการในบางสาขาของร้านค้าสะดวกซื้อ “SPAR”
ด้าน ปตท.ก็ร่วมโครงการ เช่น ลูกค้าร้านจิฟฟี่ที่ไม่รับถุงพลาสติก จะได้รับคะแนนสะสม 3 เท่า คาดช่วยลดจำนวนถุงพลาสติกได้ 24 ล้านใบต่อปี และหากนำแก้วมาเองซื้อกาแฟอเมซอนจะได้รับส่วนลดเฉพาะเครื่องดื่มเย็น 5 บาท โดยในส่วนแก้วเครื่องดื่มร้อนก็จะใช้แก้วย่อยสลาย ทุกสาขาทั่วประเทศ
บล.เคทีซีมิโก้ วิเคราะห์ผลดำเนินการ บมจ.บางจากฯ ว่า ไตรมาส 2 ปีนี้ไม่ได้แย่ แม้จะมีการปิดซ่อมบำรุง 45 วัน โดยคาดกำไรสุทธิจะแข็งแกร่งที่ 1,200 ล้านบาทจากกำไรจากสต็อกน้ำมัน และค่าการกลั่น ( market GRM) ที่แข็งแกร่งในเดือนเมษายน ก่อนที่โรงกลั่นจะปิดซ่อมบำรุง 45 วัน (30 เม.ย. – มิ.ย. 2018) จากปริมาณการกลั่น ที่จะลดลงเป็นเฉลี่ย 63 พันบาร์เรลต่อวัน (kbd) ในไตรมาส 2 คาดว่าผลกระทบจาก base effect จะทำให้ market GRM อยู่ที่ 8 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล คาดมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน 622 ล้านบาท จะทำให้ accounting GRM อยู่ที่ 11 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ใน 2Q18E (หากไม่รวม base effect ~6.3 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล) ซึ่งจะเป็นเกราะกันชนของโรงกลั่น ขณะที่คาดผลการดำเนินงานของธุรกิจการตลาดและเชื้อเพลิงชีวภาพจะอ่อนแอลงจากอัตรากำไรที่ลดลง ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าคาดจะแข็งแกร่งจากปริมาณผลิตไฟฟ้าที่สูงขึ้นของโรงไฟฟ้าโซลาร์ไทยและญี่ปุ่น และส่วนแบ่งกำไรที่แข็งแกร่งจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ.-สำนักข่าวไทย