fbpx

บางจากฯ ปรับตัวรีดไขมันเลื่อนโครงการลงทุนฝ่าวิกฤติโควิด-19

กรุงเทพฯ 12 พ.ค. – บางจากฯ ลดงบดำเนินการประมาณ 7 พันล้านบาท เลื่อนโครงการลงทุนที่ไม่จำเป็น  ลดกำลังกลั่น ปรับตัวรองรับความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจ 


นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากฯ ได้ปรับตัวลดต้นทุน  เลื่อนโครงการลงทุนที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน และหาทางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงสุดรวมทั้ง ผู้บริหารให้ความร่วมมือลดเงินเดือนส่วน ระดับพนักงานทั่วไปไม่มีการลดเงินเดือนแต่อย่างใด ในขณะที่โรงกลั่นน้ำมันได้ลดกำลังกลั่นน้ำมันลงไปแล้วร้อยละ 30 เพื่อให้สอดคล้องกับ ยอด ขายน้ำมันที่ลดลงจากผลกระทบการระบาดของโควิด-19 โดยเป็นผลมาจากหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมโครงการทำงานที่บ้าน เพื่อหยุดเชื้อเพื่อชาติ  ซึ่งในส่วนของบางจากฯ ยอดขายเดือนเมษายนลดลงประมาณร้อยละ 25 แต่ขณะนี้จากการคลายล็อกดาวน์ยอดใช้น้ำมันก็ได้เริ่มขยับขึ้นมาบ้าง 

ขณะเดียวกันบางจากฯ ได้ลดงบดำเนินการลงประมาณ 7,000  ล้านบาท ดูสภาพคล่องทั้งหมดคาดว่าหากยอดใช้น้ำมันยังตกต่ำ เพราะสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่ดีขึ้น บางจากฯ ก็จะอยู่ได้โดยไม่ต้องใช้มาตรการอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกประมาณกว่า 1 ปี  แต่จากที่ทั่วโลกร่วมมือกันหาวัคซีนเชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นโดยเร็ว


ทั้งนี้ บางจากฯ ระบุว่าเมื่อเร็ว ๆ ประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ มูลค่าไม่เกิน 5,000 ล้านบาท และส่วนสำรองการเสนอขาย มูลค่าไม่เกิน  3,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเพื่อนำไปไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดปีนี้ และส่วนหนึ่งเพื่อการบริหารการเงินและเป็นการสร้างความมั่นคงและยั่งยืนด้านพลังงานให้ประเทศ

“เราบริหารสภาพคล่อง ส่วนกำลังผลิต การใช้งบฯ ลงทุน ก็ต้องดูจากดีมานด์ ซัพพลายด์และประเมินสถานการณ์ ในอนาคต ซึ่งขณะนี้ไม่มีใครรู้ว่าโควิด-19 จะดีขึ้นเมื่อใด และราคาน้ำมันจะอยู่ในระดับต่ำไปนานแค่ไหน จึงต้องพร้อมปรับตัวทำธุรกิจหลักให้เตรียมพร้อมปรับให้แข็งแกร่ง” นายชัยวัฒน์ กล่าว

ด้านบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 มีกำไรสุทธิประมาณ 574 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.7 จากไตรมาส 1/2562 สาเหตุหลักมาจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 325 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2562 ร้อยละ 9.7              


นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บีซีพีจี  เปิดเผยว่า ไตรมาส 1/2563 บริษัทฯ ยังคงเติบโตต่อเนื่องและมีผลการดำเนินงานที่ดีมีการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากการเข้าซื้อและเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์หลายโครงการ ได้แก่ เช่น โครงการ “ลมลิกอร์” เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เดือนเมษายน 2562, โครงการ “Nam San 3A” เข้าซื้อในเดือน กันยายน 2562, โครงการโซลาร์ลอยน้ำ และติดตั้งบนพื้นดิน ภาคเอกชน “บางปะอิน” เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ เดือนพฤศจิกายน 2562 และในส่วนของการดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน บริษัทฯ ได้ดำเนินการต่อยอดเทคโนโลยีให้มีความหลากหลาย และขยายฐานธุรกิจของบริษัทฯ ไปยังประเทศต่าง ๆ ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชีย มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะทำให้รายได้ของบริษัทฯ มีเสถียรภาพมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการสร้างสมดุลของความหลากหลายของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนของบริษัทฯ อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น