ชัวร์ก่อนแชร์ : หลังผ่าตัดคลอด “กินลูกปลาช่อน” ช่วยให้แผลหายไว จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์คลิปกินลูกปลาช่อนดิบเพื่อช่วยให้แผลผ่าคลอดหายไว จริงหรือ ?


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับอาจารย์ประจำภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ศ.นพ.ดร.เผด็จ สิริยะเสถียร อาจารย์ประจำภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในคลิปที่แชร์กัน “กินลูกอ่อนปลาช่อนดิบเพื่อหวังให้แผลผ่าตัดคลอดหายเร็วขึ้น” ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่กลับจะได้ “พยาธิ” เป็นของแถมด้วย


พยาธิที่พบจากการกินปลาช่อนดิบคือ พยาธิตัวจี๊ด (Gnathostoma Spinigerum)  และพยาธิตืดปลา (Fish tapeworm infection หรือ Diphyllobothriasis)

วงจรชีวิตของพยาธิตัวจี๊ด

ปกติแล้วตัวแก่ของพยาธิตัวจี๊ด (ทั้งตัวผู้และตัวเมีย) จะอาศัยอยู่ในกระเพาะอาหารของสุนัข แมว เสือ หลังจากพยาธิผสมพันธุ์แล้ว พยาธิตัวเมียจะปล่อยไข่ออกมากับอุจจาระของสัตว์เหล่านี้ เมื่อไข่ลงน้ำจะฟักตัวออกมาเป็นตัวอ่อนระยะที่ 1


ตัวกุ้งไร (cyclops) จะกินตัวอ่อนพยาธิ (ระยะที่ 1) และไปเจริญเป็นตัวอ่อนระยะที่ 2

เมื่อปลากินกุ้งไรที่มีพยาธิ พยาธิจะเจริญในปลาเป็นตัวอ่อนระยะที่ 3 ซึ่งเป็นระยะติดต่อ ถ้าสุนัขหรือแมวกินปลานี้เข้าไป พยาธิก็ไปเจริญเป็นตัวแก่ในกระเพาะอาหาร แต่ถ้าคนกินปลาซึ่งมีพยาธิระยะติดต่อเข้าไป พยาธิจะคืบคลานหรือไชไปตาม อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ยังไม่มีรายงานว่าพยาธินี้เจริญเป็นตัวแก่จนสามารถออกไข่ได้ในคน

กินลูกอ่อนปลาช่อนดิบ พยาธิตัวจี๊ดเข้าสู่ร่างกายได้อย่างไร ?

พยาธิตัวจี๊ดสามารถติดต่อได้ในคนทุกเพศทุกวัย เข้าสู่ร่างกายผ่านการกินเนื้อปลาน้ำจืดที่ปรุงไม่สุก (สุก ๆ ดิบ ๆ) เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ เนื้อหมู เป็นต้น แต่ในเนื้อปลาทะเลน้ำลึกจะไม่พบตัวอ่อนของพยาธิจี๊ด

ตัวอ่อนของพยาธิตัวจี๊ดไม่สามารถเจริญเติบโตและวางไข่ภายในร่างกายคนได้ พยาธิชนิดนี้จึงชอนไชไปทั่วร่างกาย และถ้าไม่ได้รับการรักษา ตัวอ่อนพยาธิตัวจี๊ดสามารถอยู่ในร่างกายได้นานหลายปีโดยไม่แสดงอาการ

ใครก็ตามที่มีพฤติกรรมชอบกินปลาน้ำจืดสุก ๆ ดิบ ๆ และมีอาการบวมใต้ผิวหนังเปลี่ยนที่ไปเรื่อย ๆ อย่างผิดปกติ หรือสงสัยว่าอาจติดเชื้อพยาธิตัวจี๊ด ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจอย่างละเอียด

พยาธิตัวจี๊ดอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น การติดเชื้อที่อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง ปอดบวม เป็นต้น

ทุกคนสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายจากพยาธิตัวจี๊ดได้ ด้วยการกินอาหารปรุงสุก ใช้ช้อนกลาง และล้างมือก่อนกินอาหารทุกครั้ง

🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับหัวหน้าภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

ในส่วนของ ศ.ดร.พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา หัวหน้าภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวถึงเรื่องที่แชร์กัน “กินลูกอ่อนปลาช่อนดิบเพื่อหวังให้แผลผ่าตัดคลอดหายเร็วขึ้น” นั้น ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะถ้าคนที่เพิ่งได้รับการผ่าคลอดแล้วกินอาหารดิบ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ ไม่ใช่เรื่องดีต่อสุขภาพร่างกายอย่างแน่นอน เช่น อาจติดเชื้อ และ/หรือ เกิดผลข้างเคียงอย่างอื่นที่คาดไม่ถึงก็ได้

ถึงแม้ว่า “โปรตีน” จะมีคุณสมบัติพิเศษทำให้แผลหายเร็วก็ตาม แต่เป็นคนละเรื่องกับการกินลูกอ่อนปลาช่อนดิบ

แผลของคนเราจะหายช้าหรือหายเร็วขึ้นกับหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น อายุ สุขภาพผิว การอักเสบของแผล (แผลอักเสบมากจะหายช้ากว่าปกติ) รวมถึงมีการติดเชื้อซ้ำซ้อน ก็ทำให้แผลหายช้าได้เช่นกัน

ในความเป็นจริงไม่มีข้อห้ามใด ๆ ถ้าต้องการจะกินอะไรก็กินได้ แต่สิ่งที่จะกินนั้นต้องสะอาด ปลอดภัย ปรุงสุก และเป็นโปรตีนที่ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารซ่อมแซมแผลผ่าคลอดได้

บทสรุป

เรื่องที่แชร์บนสื่อสังคมออนไลน์ “กินลูกอ่อนปลาช่อนดิบเพื่อช่วยให้แผลผ่าคลอดหายไว” ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ

“เมื่อได้รับข้อความอะไรที่บอกว่าทำอย่างนั้นดี ทำอย่างนี้ดี โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพร่างกาย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความมั่นใจว่าเป็นข้อความที่เชื่อถือได้และมีงานวิจัยรับรอง” ศ.นพ.ดร.เผด็จ กล่าว

🔎 ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย พีรพล อนุตรโสตถิ์ เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย