ขอนแก่น 22 มิ.ย.-ผู้ว่าฯ ขอนแก่น วางมาตรการเข้มป้องกันเหตุลืมเด็กนักเรียนไว้ในรถยนต์ กำชับครู-บุคลากร “ดับเบิลเช็ก” นักเรียนหากนักเรียนไม่มาโรงเรียน หรือหายไปต้องรู้ให้ได้ พร้อมมอบเงินเยียวยาครอบครัว “น้องแยม” 650,000 บาท
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดโครงการพัฒนาครูผู้สอนและครูผู้ดูแลเด็ก เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในเด็กปฐมวัย ที่โรงแรมเมเจอร์ แกรนด์ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น มีข้าราชการครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 เข้าร่วมกว่า 200 คน ในระหว่างการเปิดโครงการฯ ได้กล่าวถึงเหตุสลดที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงกวินทรา เค้พวง หรือ “น้องแยม” วัย 5 ขวบ นักเรียนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านซำภูทอง ต.ห้วยม่วง อ.ภูผาม่าน ซึ่งเสียชีวิตจากการที่ครูลืมไว้ในรถยนต์ พร้อมกำชับครูอาจารย์เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลเด็กนักเรียนที่อยู่ในความรับผิดชอบของโรงเรียนแต่ละแห่ง ให้รอบคอบมากยิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์สลดขึ้นอีก
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ของน้องแยม และครูผู้ดูแลที่ไปรับรับน้องแยมต่างก็เสียใจกับการสูญเสียในครั้งนี้ จึงกำชับให้ได้ช่วยกันเฝ้าระวัง พร้อมกันนี้ได้เสนอแนะให้โรงเรียนแต่ละแห่งไปคิดค้นวิธีในการดูแลเด็กนักเรียนที่อยู่สถานศึกษาของตนเอง ขณะเดียวกันจังหวัดฯ กำลังคิดค้นวิธีสแกนเด็กนักเรียนตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามาในโรงเรียน ด้วยการทำบัตรคล้องคอให้กับนักเรียนแต่ละคน เมื่อนักเรียนมาถึงโรงเรียนก็จะต้องนำบัตรประจำตัวที่ได้รับไปเสียบในช่องที่ทำไว้เพื่อนับจำนวน
หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้เป็นตัวแทนมอบสินไหมทดแทน ให้แก่นางกัลยา น้อยแก้ว แม่น้องแยม โดยกรมธรรม์แยกเป็น ตาม พ.ร.บ.กรมธรรม์คุ้มครองกรณีเสียชีวิตจำนวน 300,000 บาท กรมธรรม์ประกันภัยภาคสมัครใจ แยกเป็นความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอกกรณีเสียชีวิตเฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุด 300,000 บาท และความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้ายอุบัติเหตุส่วนบุคคลกรณีเสียชีวิตผู้โดยสาร ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปรายละ 50,000 บาท
ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์และให้เป็นไปตามความเป็นธรรมและรวดเร็ว ตามนโยบายของ คปภ.ภาค 3 จังหวัดขอนแก่นจึงประสาน บริษัท มิตรแท้ประกันภัย ซึ่งรับประกันภัยรถคันดังกล่าว จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปชดใช้ค่าสินไหมรวมเป็นเงิน 650,000 บาท.-สำนักข่าวไทย