กรุงเทพฯ 16 มิ.ย.-ผบ.ตร.กลับถึงไทยแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องการนำตัว “อดีตพระพรหมเมธี” มาดำเนินคดีในไทย ขณะที่มีคำชี้แจงถึงการจับเงินของพระ ว่า สามารถทำได้หรือไม่
มีรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชา การตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางกลับจากฝรั่งเศสแล้ว โดยกลับถึงไทยก่อนกำหนด ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ หลังก่อนหน้านี้มีกระแสข่าว พล.ต.อ.จักรทิพย์ บินด่วนครั้งที่ 2 เพื่อนำอดีตพระพรหมเมธี หรือ “จำนงค์ เอี่ยมอินทรา” อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามฯ ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัดที่ยังหลบหนีกลับมายังไทย โดยประสานความช่วยเหลือจากตำรวจสากล โดยสำนวนคดีของอดีตพระพรมเมธี พนักงานสอบสวนกองปราบปราม กำลังเร่งทำส่งต่อให้อัยการเป็นผู้ทำเรื่องประสานขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา พ.ศ.2535 และถึงแม้ไทยกับเยอรมันจะไม่มีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต่อกัน แต่สามารถใช้ธรรมเนียมปฏิบัติ เพื่อขอตัวมาดำเนินคดีอาญาในได้ อย่างไรก็ตามการจะส่งตัวให้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับทางการเยอรมนีจะตัดสินใจ
ส่วนกรณีที่มีหนังสือของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขอข้อมูลด้านการเงินที่พระไม่ถือเงินสด และนำเข้าบัญชีส่วนกลางของวัดทันที เพื่อหาวัดตัวอย่าง และนำไปพิจารณาปรับใช้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัย จนเกิดเป็นกระแสในสังคมว่า พระจับเงิน ผิดพระธรรมวินัยหรือไม่ พระครูปลัดกวีวัฒน์ รองเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส กล่าวว่า หากไล่เรียงไปในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้า เคยทรงอนุญาตให้พระสงฆ์ใช้ปัจจัยได้ แต่ต้องมี กัปปิยการก หากเทียบในปัจจุบัน คือ ไวยาวัจรกร หรือ ลูกศิษย์วัด ถือเงินถือทองของภิกษุ และใช้จ่ายในกิจส่วนตัวแทน แต่พระสงฆ์ 3 แสนกว่ารูปในไทย ไม่ได้มีไวยาวัจกรหรือลูกศิษย์ครบทุกรูป จึงอยากให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องหารือกัน เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน การรับเงินรับทอง ถือเป็นอาบัติเบา พระสงฆ์สามารถปลงอาบัติได้
ด้านนายรักสยาม นามานุภาพ นายกสมาคมเปรียญธรรม9ประโยคกล่าวว่า จากการไปศึกษาในสิกขาบทที่ 9 มีบทบัญญัติ ให้รับของไว้ใช้สอยสิ่งจำเป็นได้ แต่อย่าไปทำธุรกิจซื้อขายเหมือนฆราวาสและอย่าเก็บสะสมเป็นลาภสักการะ ส่วนสิกขาบทที่ 10 อย่าเอาของไปแลกเปลี่ยนของกับโยม ซึ่งเมื่อพระได้กระทำผิดดังกล่าวข้างตน จะมีโทษในระดับอาบัติเบา ซึ่งมีโทษน้อย ให้สารภาพและตั้งใจสำรวมระวังใหม่ได้.-สำนักข่าวไทย