บุรีรัมย์ 14 มิ.ย. – นายสุและนางบุญสวน กิ่งโพธิ์แก้ว สองสามีภรรยา เกษตรกรบ้านห้วยจระเข้มาก ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ แบ่งพื้นที่ว่างรอบบริเวณบ้านประมาณ 5 ไร่ ปรับเปลี่ยนมาปลูกเงาะ ทุเรียน ผสมผสานกับมะนาว และกล้วยอีกหลากหลายสายพันธุ์ โดยได้ทดลองปลูกทุเรียนสายพันธุ์หมอนทองจำนวน 100 ต้น ขณะนี้สามารถเก็บผลผลิตขายได้แล้วกว่า 20 ต้น เป็นเวลากว่า 4 ปีแล้ว และปลูกเงาะโรงเรียนอีก 20 ต้น ให้ผลผลิตแล้ว 4 ปี ทั้งนี้ ยังได้ปลูกมะนาวและกล้วยหลายสายพันธุ์อีกอย่างละ 100 ต้น สลับกับต้นทุเรียน และเงาะในแปลงเดียวกันด้วย เพื่อให้สามารถเก็บผลผลิตขายได้ตลอดทั้งปี
จากเมื่อก่อนปลูกเพียงพืชผักสวนครัวและทำนาเหมือนกับเกษตรกรคนอื่นๆ ในหมู่บ้าน แต่ประสบปัญหาเรื่องดินฟ้าอากาศ และราคา แต่หลังจากหันมาปลูกเงาะ ทุเรียน ผสมผสานกับมะนาวและกล้วย ทำให้มีรายได้เฉลี่ยปีละ 400,000-500,000 บาท คาดว่าหากทุเรียนและเงาะที่ปลูกไว้ให้ผลผลิตได้เต็มที่ทุกต้น จะมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่านี้
นางบุญสวน บอกว่า ตอนแรกที่นำต้นทุเรียนและเงาะมาทดลองปลูกสลับกับมะนาวและกล้วย มีเกษตรกรในหมู่บ้านหลายคนพูดว่าไม่ได้ผลผลิตหรอก เพราะไม่ใช่พื้นที่ที่จะปลูกเงาะ ทุเรียนได้ แต่ก็พยายามศึกษาหาความรู้วิธีการปลูกและดูแลรักษาจากหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะทุเรียนเป็นไม้ผลที่ชอบพื้นที่ชุ่มชื้น จึงใช้วิธีต่อท่อเป็นระบบน้ำหยดและสปริงเกอร์ไปตามแปลงที่ปลูก ที่สำคัญไม่ใช้สารเคมี แต่ใช้วิธีแบบธรรมชาติ คือ นำใบและลำต้นของต้นกล้วยที่เก็บผลผลิตแล้วมาใส่บริเวณโคนต้นทุเรียน เพื่อให้เกิดความชุ่มชื้นและเป็นปุ๋ยโดยธรรมชาติ และใช้น้ำหมักชีวภาพรดบำรุงและกำจัดวัชพืช ทำให้เงาะ ทุเรียนที่ปลูกปลอดสาร มีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย ไม่แพ้จังหวัดที่เป็นแหล่งปลูกเงาะ ทุเรียน
หลายคนได้ลิ้มรสชาติแล้วติดใจ ขณะนี้ทุเรียนที่ออกลูกแล้วอีกประมาณ 1 เดือน จะแก่สุกเต็มที่ มีทั้งข้าราชการ พนักงานธนาคาร และประชาชนทั่วไป แห่มาจองไว้ล่วงหน้า ทั้งจองเป็นลูกและจองทั้งต้น จนไม่เพียงพอต่อความต้องการแล้ว และขณะนี้ได้ทดลองปลูกมังคุดเพิ่มเติมอีก หากเกษตรกรรายใดที่สนใจก็สามารถมาเรียนรู้และซื้อต้นพันธุ์ที่สวนของตนเองได้. – สำนักข่าวไทย