กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – “เสนาโซลาร์” สมัครโครงการนำร่องของภาครัฐ””เปิดเสรีโซลาร์” แบบไม่มีเงินอุดหนุน 180 หลังคาเรือน หวังรัฐเปิดรอบใหม่มีเงินอุดหนุน สนองเทรนด์ผู้บริโภคตื่นตัวหาบ้านติดโซลาร์ เตรียมศึกษาแบตเตอรี่สำรองไฟฟ้าดึงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เก็บสะสมในช่วงกลางวันมาใช้กลางคืน
น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่เสนาฯได้มีนโยบายในการนำแผงโซลาร์เซลล์ติดตั้งในทุกโครงการ ทั้งโครงการหมู่บ้านและคอนโดมิเนียม นับว่าได้รับตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี แม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนของภาครัฐในการรับซื้อไฟเข้าระบบ ภายใต้นโยบายการเปิดเสรีพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา หรือ โซลาร์รูฟท็อป โดยขณะนี้ลูกค้าผู้บริโภคมีการเรียนรู้ถึงประโยชน์ของโซลาร์รูฟท็อปมากขึ้นว่าสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายค่าไฟและค่าส่วนกลางที่จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนดังกล่าวได้ประมาณ 20-25% ซึ่งบริษัทได้มีการยื่นขอเข้าโครงการเปิดเสรีโซลาร์ไปในรอบปัจจุบันจำนวน 180 หลัง ซึ่งจัดอยู่ในปริมาณของผู้ที่ยื่นขอเป็นอันดับต้นๆจำนวนหลังมากที่สุด
“ คาดหวังว่าสำหรับการเปิดเสรีโซลาร์รูฟท็อปในรอบใหม่ รัฐบาลควรจะพิจารณาในเรื่องของการอุดหนุนให้กับผู้ร่วมโครงการ โดยอาจเป็น FIT ที่เหมาะสมผจะทำให้เกิดแรงจูงใจในตลาดและผู้บริโภคจะมีความตื่นตัวในการหันมาติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อปมากขึ้น” น.ส.เกษรากล่าว
สำหรับแผงโซลาร์พบว่าขณะนี้ราคาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ราคาต้นทุนเฉลี่ยต่อกิโลวัตต์ปรับตัวลดลง โดยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาทต่อกิโลวัตต์ ซึ่งในส่วนของแผงโซลาร์ที่บริษัทใช้ติดตั้งในโครงการหมู่บ้านเสนาทุกโครงการนั้น จะใช้แผงเฟิร์ส โซลาร์ อิงค์ (First Solar) นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยบริษัทยังให้บริการรับเหมาติดตั้ง และจำหน่ายแผงโซลาร์รูฟท็อปให้กับลูกค้า ที่เป็นเจ้าของโรงงาน หรือ คลังสินค้า และขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเกี่ยวกับระบบสะสมพลังงานไฟฟ้า หรือ แบตเตอรี่ เพื่อเป็นการต่อยอดโครงการผลิตไฟฟ้าบนหลังคาบ้าน (โซลาร์รูฟท็อป) ของเสนาฯ โดยเฉพาะการนำมาติดตั้งกับบ้านทุกหลังเพื่อสะสมไฟฟ้าช่วงกลางวันให้นำมาใช้ในช่วงกลางคืนได้ รวมทั้งศึกษาการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยระบบโซลาร์เซลล์อีกด้วย
ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเปิดขาย 2 โครงการหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ ได้แก่ โครงการเสนาพาร์ควิลล์ รามอินทรา-วงแหวน และโครงการเสนาวิลล์ บรมราชชนนี-สาย 5 ซึ่งถือเป็นโครงการนำร่องในการสร้างชุมชนรักษ์โลก โดยนับว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชน มีการจัดทำ Application เสนา 360องศา เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นด้านการบำรุงรักษา และให้คำปรึกษาอย่างครบวงจร
โดยในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ บริษัทเสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่ เตรียมเปิดตัวอีก 5 โครงการ ในการเข้าไปพัฒนาติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อปบนหลังคาทั้งโครงการที่เป็นหมู่บ้าน และโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งมูลค่าการลงทุนรวมทุกด้านทั้ง 7 โครงการประมาณ 4,700 ล้านบาท
_สำนักข่าวไทย