รัฐสภา 28 พ.ค.-คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรมดัน 4 กิจกรรมเร่งด่วนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ อำนวยความยุติธรรมต่อสังคม ให้ตำรวจรับแจ้งความได้ทุกท้องที่ คาดทำได้ใน 2 เดือน กำลังประสานห้ามนำผู้ต้องหาแถลงข่าวต่อสื่อฯ จัดทนายประจำโรงพัก สั่งคำร้องปล่อยตัวชั่วคราวของศาลในวันหยุด
พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน โฆษกคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม แถลงภายหลังประชุมคณะกรรการฯ ว่า คณะกรรมการฯ ได้ประชุมเพื่อผลักดันแผนการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมที่ได้ประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติให้ได้ผลเป็นรูปธรรม โดยแผนการปฏิรูป 10 ประเด็น 142 กิจกรรม มีทั้งกิจกรรมที่ต้องบัญญัติกฎหมายใหม่หรือต้องปรับปรุง และกิจกรรมที่สามารถดำเนินการได้ทันที ซึ่งเห็นว่าขณะนี้มีกิจกรรมที่ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างรวดเร็ว ลดความเหลื่อมล้ำ อำนวยความยุติธรรมต่อสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม 4 กิจกรรม คือ การรับแจ้งความได้ทุกที่ เพื่อความสะดวก จากเดิมเหตุเกิดที่ไหน จะต้องแจ้งที่นั่น ซึ่งได้หารือร่วมกับ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับที่จะแก้ระเบียบให้สอดคล้อง คาดว่าภายใน 2 เดือนน่าจะนำไปสู่การปฏิบัติได้ ขณะเดียวกันมีเรื่องการห้ามนำผู้ต้องหาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ซึ่ง พล.ต.อ.วิระชัย รับจะไปประชุมหารือกับฝ่ายผู้บริหารตำรวจว่าจะทำได้แค่ไหน เพราะบางเรื่องยังต้องเตือนภัยกับประชาชนอยู่
พล.ต.ท.อำนวย กล่าวอีกว่า คณะกรรมการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมฯ ยังหารือกับนายกสภาทนายความ และจะผลักดันให้มีทนายความประจำทุกสถานีตำรวจ โดยเบื้องต้นจะใช้ทนายอาสา เริ่มที่สถานีตำรวจหัวเมือง และในนครบาลก่อน จากนั้นคงจะตั้งงบประมาณในการสนับสนุน เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่ประชาชน และสุดท้ายคือการสั่งคำร้องปล่อยตัวชั่วคราวของศาลในวันหยุดราชการ เพื่อคุ้มครองสิทธิผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ถูกขัง ที่จะได้รับการพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรมสามารถดำเนินการได้โดยใช้งบประมาณจำนวนไม่มาก น่าจะผลักดันให้เป็นรูปธรรมโดยเร่งด่วนได้.-สำนักข่าวไทย