“ศรีริต้า” หลั่งน้ำตาได้ความยุติธรรม ศาลสั่งจำคุกมือแพร่คลิปตัดต่ออนาจาร

กรุงเทพฯ 25 ต.ค. – วันนี้ (25 ต.ค. 66) ดาราสาวชื่อดัง “ศรีริต้า เจนเซ่น” ถึงกับหลั่งน้ำตาที่ได้ความยุติธรรมและกอบกู้ชื่อเสียง หลังศาลสั่งจำคุกคนที่เผยแพร่คลิปที่นำภาพไปตัดต่ออนาจาร


ศรีริต้า เจนเซ่น และกรณ์ ณรงค์เดช สามี พร้อมกับ “ทนายนิด้า” ศรันยา หวังสุขเจริญ ไปที่ศาลอาญา เพื่อรับฟังคำพิพากษาในคดีเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกรณีมีบุคคลนำคลิปวิดีโอที่ถูกตัดต่อเชิงอนาจารเผยแพร่ในสื่อออนไลน์อย่างแพร่หลาย ทำให้ได้รับความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียง

คดีนี้เกิดขึ้นช่วงปลายปี 2563 ศรีริต้าได้ไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เอาผิดบุคคลนำคลิปวิดีโอที่ถูกตัดต่อเชิงลามกอนาจารเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ฐานความผิดข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และเรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย บอกว่าตกใจมากที่ได้เห็นคลิป มีการตัดต่อและตั้งชื่อเป็นตนเอง มีการใช้ถ้อยคำหยาบคาย ส่อลามกอนาจาร โดยผู้หญิงในคลิปไม่ใช่ตน เห็นแล้วทนไม่ได้ เพราะเป็นการละเมิดสิทธิ และรู้สึกว่าคนทำคลิปใจร้ายมาก


หลังทราบผลการตัดสินของศาลในวันนี้ ศรีริต้าถึงกับร้องไห้ บอกว่าเป็นสิ่งที่ติดอยู่ในใจ การถูกกระทำเช่นนี้มันบั่นทอนจิตใจมากกว่าหลายคนจะเข้าใจ วันนี้ได้รับความเป็นธรรมแล้ว ไม่ใช่คนในคลิป ที่ฟ้องไปไม่ได้ทำด้วยความโกรธแค้น แต่อยากปกป้องชื่อเสียงของตนเอง ปกป้องครอบครัว รวมถึงปกป้องลูกด้วย ไม่อยากให้เข้าใจผิดจากสิ่งที่ไม่เป็นความจริง ที่สำคัญอยากให้เป็นบทเรียนว่าการกระทำแบบนี้ทำลายชีวิตคนได้จริงๆ อยากให้คิดก่อนทำ ไม่อยากให้เคสแบบนี้เกิดขึ้นอีก ส่วนเงินทุกบาทจะนำไปทำบุญทั้งหมด

ด้าน กรณ์ ณรงค์เดช สามี บอกว่า ที่ผ่านมาเครียดมาก ตอนนั้นที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่ศรีริต้าอุ้มท้องพอดี เป็นอะไรที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง ซึ่งวันนี้ได้รับความเป็นธรรม ยืนยันแล้วว่าคนในคลิปไม่ใช่ศรีริต้า

ทนายนิด้า บอกว่า พฤติการณ์ของจำเลยคือ การส่งต่อข้อมูลอนาจาร ไม่ได้เป็นผู้ตัดต่อคลิปอนาจารขึ้นมาเอง การกระทำนี้ถือว่ามีความผิด โดยศาลพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4)(5) ลงโทษจำคุก 1 ปี และปรับ 20,000 บาท ผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ลงโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 100,000 บาท และมาตรา 397 ลงโทษปรับ 1,000 บาท รวมโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 121,000 บาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 12 เดือน และปรับ 60,500 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี และให้รายงานตัวพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้งใน 1 ปี ทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ศาลยังสั่งให้จำเลยลบ ทำลาย ข้อความอันเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ และให้โฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์ 15 วัน และโฆษณาคำขออภัยผ่านทางเฟซบุ๊กของโจทก์เป็นเวลา 30 วัน ให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ

เดินทางปีใหม่สายเอเชีย

ถนนสายเอเชียมุ่งสู่ภาคเหนือรถเริ่มมาก

ประชาชน เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา และไปท่องเที่ยวช่วงส่งท้ายปี 2567 รับปีใหม่ 2568 การจราจรถนนสายเอเชีย ฝั่งขาขึ้นภาคเหนือ ช่วงชัยนาท รถเริ่มมาก

ฉายาตำรวจปี67

เปิด 10 ฉายาตำรวจ ปี 67

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมฯ เปิด 10 ฉายา ตำรวจ “บิ๊กต่าย” ฉายา “กัปตันเรือกู้” จากภารกิจร้อนในการกอบกู้วิกฤติศรัทธา-ภาพลักษณ์องศ์กร “สารวัตรแจ๊ะ” ได้ฉายา “อย่าเล่นกับระบบ แจ๊ะ”