นักธุรกิจหนุ่มเเจ้งความตำรวจรถถูกสวมทะเบียนปลอม

กทม. 26 พ.ค.-นักธุรกิจหนุ่มเข้าเเจ้งความตำรวจรถถูกสวมทะเบียนปลอม พบจ่าสิบตำรวจนายหนึ่งขับ อ้างเป็นรถที่ได้มาจากการจับกุม เเต่ไม่แสดงหลักฐาน

นายฉัตรชัย สินธุสิงห์ ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว เข้าเเจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน หลังรถยนต์ของตน ยี่ห้อนิสสัน คิวบ์ สีเขียว ทะเบียน ฆจ6579 กรุงเทพมหานคร ถูกสวมทะเบียนปลอม โดยได้พบเห็นรถที่สวมทะเบียนปลอมในช่วงบ่ายวานนี้ (25 พ.ค.) จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน สกัดจับ พบว่าผู้ขับเป็นจ่าสิบตำรวจนายหนึ่ง จึงนำรถคันดังกล่าวมาไว้ที่ สน.ปทุมวัน และจะมีการนัดสอบปากคำเพิ่มเติมในวันนี้ เวลา 11.00 น.

นายฉัตรชัยกล่าวว่า ตนมาร้องขอความเป็นธรรม หากผู้ที่กระทำความผิด หรือนำรถไปขนยาเสพติด คนที่ต้องได้รับความเดือดร้อนอันดับเเรกจะต้องเป็นตน ทั้งๆ ที่ไม่ได้กระทำความผิด ซึ่งตั้งเเต่ต้นปีที่ผ่านมาตนได้รับใบสั่งจากสถานีตำรวจเป็นจำนวนมาก ตอนนั้นเข้าใจว่าลูกน้องเป็นคนขับจึงได้ต่อว่า ต่อมาเดือน เม.ย.-พ.ค. ก็ได้รับใบสั่งมาเรื่อยๆ พอสังเกตรถอย่างละเอียดเเล้วพบว่ารถไม่ใช่ของตน เนื่องจากมีจุดต่างเเค่ 2 จุด คือรถที่สวมทะเบียนปลอมไม่มีหลังคา sun loop เเละโค้งรอบล้อสีดำ ซึ่งของจริงมี ส่วนที่เหลือทั้งรุ่น สีรถเหมือนกันทุกประการ จึงได้เข้าแจ้งความ 3 ครั้ง เเละกรมทางหลวงได้ยกเลิกใบสั่งให้ เเต่ยังไม่มีความคืบหน้าให้การหาผู้กระทำความผิดสวมทะเบียนปลอมมาดำเนินคดีได้ ตั้งเเต่เดือน เม.ย. ตนจึงตัดสินใจจอดรถไว้ที่บ้าน เเละให้เพื่อนๆ ช่วยกันออกตามหาจนมาพบรถคนดังกล่าววันนี้ในเขตพื้นที่สามย่าน

นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่า เบื้องต้นจ่าสิบตำรวจคนดังกล่าวเเละหัวหน้าจ่าสิบตำรวจคนนั้นได้เข้ามาเจรจา อ้างว่ารถคันดังกล่าวได้มาจากการจับกุมตั้งเเต่วันที่ 25 ธ.ค.ปีที่แล้ว โดยมีการสวมทะเบียนมาตั้งเเต่การจับกุม ตนจึงขอดูหลักฐานเเต่กลับไม่มีมาเเสดง จึงเกิดคำถามว่ารถที่เป็นของกลางสามารถนำไปขับขี่ได้หรือเเละมีสิทธิ์เอาป้ายทะเบียนบุคคลอื่นมาสวมสิทธิ์ได้หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายฉัตรชัยจะเดินเข้าไปเเจ้งความร้องทุกข์ใน สน.ปทุมวัน ได้มีการพูดคุยกับจ่าสิบตำรวจคนดังกล่าวเเละคณะ โดยตกลงกันว่าจะเจรจาต่อภายใน สน. เเต่เมื่อคณะจ่าสิบตำรวจเห็นคณะผู้สื่อข่าวที่เดินทางไปทำข่าวกลับเดินหนีหายไปคนละมุม เเละไม่พบเห็นในพื้นที่ดังกล่าวระหว่างที่นายฉัตรชัยเข้าไปแจ้งความเเละออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนรวมระยะเวลาเกือบ 3 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย