กระตุ้นเอกชนสนใจปกป้องอัญมณีไทย

นนทบุรี 22 พ.ค. – ผู้อำนวยการสถาบันอัญมณีฯ หวั่นสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยถูกละเมิดสิทธิ์ลอกเลียนแบบทั้งตลาดในและตลาดนอก เตรียมเสริมความรู้จัดอบรมปกป้องสิทธิ์ 


นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือจีไอที เปิดเผยว่า แม้ตัวเลขของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นสินค้าส่งออกสำคัญอันดับที่ 3 รองจากรถยนต์ คอมพิวเตอร์ โดยสร้างรายได้เข้าประเทศสูงถึง 435,000 ล้านบาท และมีมูลค่าการซื้อขายในประเทศ  533,000 ล้านบาท ทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศปีละเกือบ 11 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 6.3 ของจีดีพี แต่สิ่งที่สถาบันฯ มีความเป็นห่วงด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้มีการลอกเลียนแบบการออกแบบกลุ่มสินค้าเหล่านี้มากขึ้น ทำให้ลูกค้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยเกิดความไม่มั่นใจในตัวสินค้าเท่าที่ควร ดังนั้น ทางสถาบันฯ จึงจัดอบรม “ทรัพย์สินทางปัญญา เรียนรู้ เข้าใจ ใช้เป็น : Grow your Business , Protect your Ideas” เพื่อช่วยต่อยอดและคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาให้กับผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับไทย เพื่อจะได้ป้องกันสิทธิ์และสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น โดยกำหนดจัดขึ้นวันที่ 2 และ 9 มิถุนายน 2561 ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 3 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ถนนสีลม กรุงเทพ

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปัจจุบันทรัพย์สินทางปัญญามีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยอย่างมาก ทั้งการออกแบบ การคิดค้น การผลิต การใช้นวัตกรรม หรือแม้แต่ภาพถ่าย เพราะหากผู้ประกอบการที่มีการประดิษฐ์คิดค้นออกมาแล้วไม่ให้ความสำคัญกับการปกครองและคุ้มครองสิทธิ ก็อาจจะถูกละเมิด ทำให้ธุรกิจได้รับความเสียหายจากการถูกลอกเลียนแบบและนำไปหาผลประโยชน์แบบผิด ๆ ที่จะสร้างความเสียหายให้กับภาคอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทย          


ทั้งนี้ ทางสถาบันฯ จึงอยากให้ผู้ประกอบการเล็งเห็นถึงความสำคัญของการปกป้องและคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา จึงได้ผนึกกำลังกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการอบรมครั้งนี้ และได้เชิญนางอุษณี ศิริเรือง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านสิทธิบัตรจากกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้มาให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา นวัตกรรมสินค้า ความคุ้มครองต่าง ๆ รวมทั้งการจัดการกับข้อพิพาท และการนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้ เพื่อเป็นเครื่องมือทางการค้าและสร้างความมั่นใจในกลุ่มสินค้านี้จากผู้บริโภคทั่วโลกมากขึ้น โดยผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-634-4999 ต่อ 301–306 หรือดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.git.or.th ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่

ระเบิดปากีสถาน

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟปากีสถานเพิ่มเป็น 24 รายแล้ว

เหตุระเบิดสถานีรถไฟในเมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็ดมากกว่า 40 ราย