เม็กซิโกซิตี 17 พ.ค.- ธนาคารกลางเม็กซิโกแถลงวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า เกิดการโจมตีไซเบอร์ลอบโอนเงินจากหน่วยงานการเงิน 5 แห่งไปร่วม 300 ล้านเปโซ (ราว 490 ล้านบาท) เป็นการยอมรับหลังเกิดเหตุไปแล้วกว่าสองสัปดาห์
นายอเลฆันโดร ดีแอซ เดอ เลออน ผู้ว่าการธนาคารกลางเม็กซิโกเผยว่า เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนว่าคนร้ายเจาะระบบการเชื่อมต่อของธนาคารพาณิชย์กับระบบชำระเงินของธนาคารกลางและส่งคำสั่งโอนเงินหลอกลวงได้อย่างไร เขาไม่เปิดเผยชื่อหน่วยงานการเงินที่ถูกลอบเงินโดยเผยเพียงว่าเป็นธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง บริษัทนายหน้า 1 แห่ง และสหกรณ์ออมทรัพย์ 1 แห่ง ข้อมูลเบื้องต้นประเมินว่า มีธุรกรรมผิดปกติราว 300 ล้านเปโซ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าคนร้ายโอนเงินออกไปได้จำนวนเท่าใด ก่อนหน้านี้แหล่งข่าวเผยกับรอยเตอร์ว่า มีการถอนเงินสดจากธนาคารสิบกว่าแห่งทั่วประเทศทันทีที่มีการส่งคำสั่งโอนเงินหลอกลวงหลายร้อยครั้ง
ผู้ว่าการธนาคารกลางเม็กซิโกซึ่งแถลงหลังเกิดเหตุตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนหรือกว่าสองสัปดาห์กล่าวว่า ธนาคารกลางตระหนักดีว่าเรื่องนี้ก่อกระทบใหญ่และรู้สึกเสียใจ จึงได้ดำเนินการแก้ไขอย่างรวดเร็ว พร้อมกับให้ความมั่นใจว่า ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง และเงินฝากของลูกค้าหน่วยงานการเงินก็ปลอดภัย อย่างไรก็ดี ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าสามารถปิดช่องโหว่ทั้งหมดได้แล้วหรือไม่จนกว่าผลการสอบสวนจะแล้วเสร็จ ธนาคารกลางจะตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นแนะนำแนวทางการรักษาความปลอดภัยให้แก่ธนาคาร หลังจากที่มีหน่วยงานความปลอดภัยไซเบอร์ภายในตั้งแต่ปี 2556 และได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยตั้งแต่เกิดเหตุธนาคารกลางบังกลาเทศถูกเจาะระบบไป 81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,590 ล้านบาท) ในปี 2559.-สำนักข่าวไทย