กรุงเทพฯ 29 ก.ย. – บมจ.ไทยออยล์รายงานว่าวานนี้ (28 ก.ย.) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นกว่าร้อยละ 6 หลังมีรายงานว่ากลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบโอเปกสามารถบรรลุข้อตกลงการกำหนดเพดานการผลิตน้ำมันดิบในวันสุดท้ายของการประชุม International Energy Forum (IEF) ที่กรุงอัลเจียร์ส ประเทศแอลจีเรีย
โดยโอเปกมีความประสงค์ที่จะกำหนดกรอบกำลังการผลิตของกลุ่มไว้ที่ช่วง 32.5 – 33 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นความยินยอมครั้งแรกตั้งแต่ปี 2551 อย่างไรก็ตาม โอเปกได้กล่าวว่า จะมีการตัดสินใจกำหนดกำลังการผลิตของแต่ละประเทศอีกครั้งในการประชุมโอเปกเดือนพฤศจิกายน ขณะที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำมันดิบสำรองคงคลังสหรัฐปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ปรับตัวลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล สวนทางกับนักวิเคราะห์ซึ่งคาดการณ์ว่าจะปรับตัวสูงขึ้น 3 ล้านบาร์เรล
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 2.38 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 47.05 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.72 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 48.69 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่ในส่วนของราคาตลาดเอเชียปรับลดลงที่ตลาดสิงคโปร์ ราคาน้ำมันดิบดูไบ ลดลง. 0.64 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 42.29 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เบนซินเพิ่มขึ้น 0.60 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 58.13 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ดีเซลลดลง 0.54 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 54.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
นาย Jeff Quigley ผู้อำนวยการตลาดพลังงานของ Stratas Advisors ณ เมือง Houston กล่าวว่า อาจจะเร็วเกินไปสำหรับความคาดหวังว่าโอเปกจะลดกำลังการผลิตลง เนื่องจากข้อมูลที่ได้มายังไม่เพียงพอ ประกอบกับการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของอิหร่านกล่าวไว้ก่อนหน้าว่า ประเทศอิหร่านมีแนวโน้มที่จะเพิ่มกำลังการผลิตสู่ระดับ 4 ล้านบาร์เรลต่อปี ซึ่งขัดแย้งกับข้อตกลงกำหนดเพดานการผลิตที่กลุ่มโอเปกเปิดเผยในการประชุม IEF
ด้านกระทรวงพลังงานรายงานค่าการตลาดน้ำมันเช้าวันนี้ (29 ก.ย.) ดีเซลสูงถึงระดับ 2.014 บาท ค่าการตลาดแก๊สโซฮอล์ อี 10 อยู่ที่ประมาณ 1.63 บาทต่อลิตร อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าอาจจะดูแนวโน้มตลาดสิงคโปร์วันนี้จะปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบตลาดโลกหรือไม่ หากขยับขึ้นราคาขายปลีกในไทยอาจจะไม่มีการปรับลดลง.-สำนักข่าวไทย