ชัวร์ก่อนแชร์ : ไม่กินอาหารเช้าเสี่ยงเป็นนิ่วในถุงน้ำดี จริงหรือ?

กรุงเทพฯ 26 เม.ย. – บนสังคมออนไลน์แชร์เตือนว่า การไม่กินอาหารเช้า ระวังจะเสี่ยงเป็นนิ่วในถุงน้ำดี เรื่องนี้จริงหรือไม่ ติดตามกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์. – สำนักข่าวไทย

แชร์ว่ามีผู้หญิงในประเทศจีนไม่กินอาหารเช้านานหลายปีจนเข้าโรงพยาบาล แพทย์ผ่าตัดพบนิ่วในถุงน้ำดีกว่า 200 ก้อน

บทสรุป : ไม่ควรแชร์ต่อ ได้รับปริมาณสารอาหารไม่เพียงพอเสี่ยงเป็นนิ่วมากกว่าไม่กินอาหารเช้า

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท สอบถาม ผศ.นพ.วิภูษิณ แต้สมบัติ ศัลยแพทย์ส่องกล้องโรคตับ ตับอ่อน และทางเดินน้ำดี รพ.จุฬาฯ ระบุการไม่กินอาหารเช้าไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงเกิดนิ่วในถุงน้ำดี เท่ากับการขาดสารอาหารเป็นเวลานาน โดย “นิ่วในถุงน้ำดี” พบมากในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย, คนอายุ 40 ปีขึ้นไปมากกว่าคนอายุน้อย, คนน้ำหนักตัวมากกว่าปกติ และคนเป็นโรคเลือดจาง เช่น ธาลัสซีเมีย ส่วนคนที่กินอาหารที่มีไขมันมากๆ เพียงทำให้น้ำดีออกมามากเท่านั้น ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงเรื่องเกิดนิ่ว ยกเว้นคนไข้เป็นนิ่วอยู่แล้ว-กินอาหารที่มีมันเยอะๆ อาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า “นิ่วในถุงน้ำดี” เกิดจากส่วนประกอบของน้ำดีเปลี่ยนแปลง ทำให้น้ำดีตกตะกอน แต่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดว่าอะไรเป็นตัวกระตุ้น บางรายอาจมีอาการแน่นท้อง ปวดท้องตรงบนลิ้นปี่ค่อนไปทางขวา หากปวดมากอาจมีไข้เรียกว่าถุงน้ำดีอักเสบ การรักษามีวิธีเดียวคือผ่าตัดเอาถุงน้ำดี-นิ่วออก สิ่งที่ป้องกันปัจจัยเสี่ยงไม่ให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดีคือ ต้องควบคุมน้ำหนักตัวให้ได้มาตรฐาน