พ.ต.อ.ร้องขอ อสส.ตรวจสอบทะเบียนบ้านหญิงอ้างเป็นทายาทเศรษฐีณี

กทม.25 เม.ย.- พันตำรวจเอกพร้อมภรรยายื่นขออัยการสูงสุด มีคำสั่งให้มีการตรวจสอบทะเบียนบ้านหญิงคนหนึ่งซึ่งใช้ประกอบการยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดกทั้งที่ไม่ใช่ทายาทของเศรษฐีณีใน จ.สุราษฎร์ที่เสียชีวิต


พ.ต.อ.โอฬาร สุขเกษม ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจรถไฟ พร้อมนางสริตา สุขเกษม ภรรยา เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดผ่านนายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองโฆษกอัยการสูงสุด  เพื่อขอให้อัยการสูงสุด มีคำสั่งไปยังพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ให้สอบสวนและตรวจสอบทะเบียนบ้านของนางพูลสุข ปรัชญานุสรณ์ หรือจิตสอางค์ ไตรพรวรยุทธ ว่าเป็นทะเบียนบ้านจริง มีข้อมูลข้อเท็จจริงถูกต้องตามระเบียบของกรมการปกครองหรือไม่ หลังภรรยาถูกดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทกรณียื่นฟ้องนางพูลสุข ในข้อหาใช้เอกสารทะเบียนบ้านปลอม และอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง พร้อมนัดภรรยาไปศาลแขวงสุราฎณร์ธานี เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลวันที่ 2 พ.ค.นี้


พ.ต.อ.โอฬาร กล่าวว่าที่ต้องมาร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด เนื่องจากตนและภรรยา เคยร้องขอความเป็นธรรมต่อศาลแขวงสุราษฎร์ธานี และศูนย์ดำรงธรรม ก.มหาดไทย ขอให้ตรวจสอบทะเบียนบ้านของนางพูลสุข มาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่เป็นผล  ภรรยาตนถูกดำเนินคดี มาจากการที่นางพูลสุข นำทะเบียนบ้านไปยื่นประกอบคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกนางพูลสิน โพธิรักขิต เศรษฐีณีในจ.สุราษฎร์ธานี โดยในทะเบียนบ้านระบุนางพูลสิน เป็นมารดา แต่ในความเป็นจริงแล้ว นางพูลสินไม่มีบุตร ไม่มีทายาท  และตนกับภรรยาได้รับการว่าจ้างจากนางพูลสิน ให้เป็นผู้บริบารและผู้จัดการทรัพย์สินมาตั้งแต่ปี 2546 กระทั่งนางพูลสิน เสียชีวิตเมื่อปี 2550 หลังจากนางพูลสุข ไปยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ทำให้ตนและภรรยายังไม่ได้รับเงินค่าจ้างดูแลเป็นเงิน 5,000,000 บาท ทำให้ได้รับความเดือดร้อน และมีการยื่นฟ้องร้องกันไปมานับ 10 ปี มีคำพิพากษาไปหลายคดีแต่ไม่มีการตรวจสอบว่าทะเบียนบ้านที่นางพูลสุข นำไปประกอบขอเป็นผู้จัดการมรดกเป็นทะเบียนบ้านจริงหรือไม่ ทั้งที่เหตุของการฟ้องร้องกันไปมาคือเรื่องทะเบียนบ้านปลอมหรือไม่ปลอม วันนี้จึงมายื่นขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาและมีคำสั่งไปยังพนักงานสอบสวนให้เร่งตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนได้เสียในกองมรดกของนางพูนสิน แต่ที่ต้องต่อสู้มาตลอดเพราะเป็นคำสั่งของผู้ตายที่สั่งไว้ก่อนสิ้นลมหายใจว่าห้ามให้ทรัพย์สินตกไปอยู่ในมือของบุคคลที่ไม่ใช่ทายาทอย่างเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

เงินหมื่นเฟส3

นายกฯ ไฟเขียว! เงินดิจิทัลเฟส 3 กลุ่ม 16-20 ปี 2.7 ล้านคน

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นชอบ โอนเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 กลุ่ม อายุ 16-20 ปี 2.7 ล้านคน หวังคนรุ่นใหม่ใช้ไอทีคล่องกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี รองรับเปิดเทอม ยืนยันกลุ่มวัยทำงาน เฟส 4 ได้เงินแน่นอน