BIG STORY : ตรวจสอบทุจริตกองทุนกระทรวงศึกษาธิการ

กรุงเทพฯ 30 มี.ค. – สตง.กำลังตรวจสอบการทุจริตกองทุนต่างๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ที่ให้ข้าราชการซี 8 บริหารเงินคนเดียวต่อเนื่องยาวนานนับสิบปี โดยไม่วางระบบให้ผู้อื่นเข้ามาตรวจสอบการจ่ายเงินทุนให้รอบคอบรัดกุม ขณะที่รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า เริ่มพบความผิดปกติกองทุนเสมาฯ มาแล้วหลายปี



ตั้งแต่ปี 2553 ถึงปัจจุบัน กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้ทุนเสมาพัฒนาชีวิตแก่นักเรียนมัธยมปลาย หากสนใจอยากศึกษาและสอบเข้าพยาบาลได้ โดยกองทุนเสมาฯ จะสนับสนุนเงินให้ปีละ 40,000 บาท/คน เมื่อจบจะได้ทำงานในสังกัดสาธารณสุข แต่มีเงื่อนไขต้องกลับไปทำงานในภูมิลำเนาของตนเอง


แต่ละปีมีนักศึกษาจากกองทุนเสมาฯ เข้ามาศึกษาในวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กระจายอยู่ใน 22 จังหวัดทั่วประเทศ ปีละ 30-50 คน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่ปีแรกที่เปิดให้ทุน ก็มีนักศึกษาที่ไม่ได้รับเงินครบตามจำนวนโควตาแล้ว ตามหลักเกณฑ์จะได้เงินก้อน 1 ครั้ง/ปีการศึกษา กองทุนฯ จะโอนเงินมาให้วิทยาลัยแต่ละแห่งตามจำนวนนักศึกษาที่ได้รับทุน แต่ปัญหาที่ปรากฏจนเป็นข่าวพบว่า ส่วนใหญ่ได้เงินไม่ครบ หลายคนบางปีไม่ได้รับเงินเลย โดยตั้งแต่ปี 2555 ถึงปัจจุบัน มีนักศึกษาที่ยังได้เงินไม่ครบ 198 คน เป็นเงินค้างที่หายไปอีกกว่า 11 ล้านบาท กระทรวงสาธารณสุขช่วยเหลือผู้ได้รับทุนไม่ครบ โดยงดเว้นค่าเล่าเรียนให้ และทำหนังสือทวงถามไปทางสำนักงานที่ดูแลกองทุนฯ แต่ในปีต่อๆ มายังพบปัญหาเดิม จึงถามตรงไปยังปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 


สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เคยตรวจสอบเมื่อปี 2553 พบข้อสงสัยการบริหารเงินในกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ซึ่งใช้วิธีรับฝากเงินระยะสั้น รวมกับบัญชีเงินตั้งต้นกองทุนจากกองสลาก 600 ล้านบาท ซึ่งนำดอกผลที่ได้มาใช้หมุนเวียนในกองทุนฯ ไม่แยกบัญชีชัดเจน สตง.จึงทำหนังสือทักท้วง เพื่อให้คณะกรรมการกองทุนฯ แยกบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้ชัดเจน และทำหนังสือทักท้วงในเรื่องนี้ทุกปี แต่มีคำตอบกลับเพียงว่า อยู่ระหว่างดำเนินการ 

มาปี 2559 สตง.สุ่มตรวจการโอนเงินของกองทุนฯ พบว่า มีการโอนเงินไปยังบุคคลอื่นที่ไม่มีสิทธิได้รับเงิน 8 ราย เป็นเงินกว่า 4 ล้านบาท สตง.จึงทำบันทึกถามกระทรวงศึกษาธิการถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น นำมาสู่การตรวจสอบภายใน พบการยักยอกเงินกองทุนฯ ไปยังบัญชีอื่น 22 บัญชี วงเงิน 88 ล้านบาท โดยเบื้องต้นข้าราชการซี 8 รับสารภาพว่าทำคนเดียว แต่เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะมีผู้ร่วมทุจริตอีก 

สตง.ยังตรวจพบว่า กองทุนฯ เปลี่ยนมาจ่ายเงินผ่านระบบ Direct Credit หรือจ่ายเงินเข้าบัญชีผู้รับโดยตรง ไม่แสดงชื่อเจ้าของบัญชี ซึ่งอาจเป็นช่องโหว่สำคัญของการทุจริต เพราะการตรวจสอบย้อนหลังว่าจ่ายเงินให้ใคร ทำได้ยากขึ้น 

สตง.ยังคงตรวจสอบกองทุนอื่นๆ ภายในกระทรวงศึกษาธิการ เบื้องต้นพบว่า การบริหารจัดการเงินกองทุนอื่นแตกต่างจากกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ซึ่งต้องมาดูรายละเอียดว่า เหตุใดจึงบริหารไม่เหมือนกัน โดย สตง.จะตรวจสอบให้พบว่า การทุจริตครั้งนี้มีช่องโหว่ตรงไหน และเหตุใดจึงมีการปล่อยให้บุคคลคนเดียวทำงานบริหารเงินอย่างต่อเนื่อง โดยไม่วางระบบการตรวจสอบข้อมูลการเบิกจ่ายทุนจากลำดับชั้นบังคับบัญชาและกลุ่มงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ใช้งบประมาณของรัฐอย่างโปร่งใส ตรงวัตถุประสงค์. – สำนักข่าวไทย

ชมผ่านยูทูบ

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ