ก.แรงงาน 29 มี.ค.- รมว.แรงงาน สั่งตรวจสอบกรณีชายชาวอุตรดิตถ์ถูกหลอกลงเรือประมง บังคับใช้แรงงาน กว่า 15 ปี ไม่ได้รับเงินค่าจ้าง กำชับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมหามาตรการเยียวยาเหยื่อผู้เสียหาย ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายและการประกอบอาชีพ
นางเพชรรัตน์ สินอวย รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กำชับให้กระทรวงแรงงานตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือกรณีแรงงานไทยถูกหลอกไปทำงานในเรือประมง เป็นเวลา 15 ปี ในเบื้องต้นสั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่เดินทางไปสอบถามข้อมูลพบว่า แรงงานดังกล่าวชื่อนายเถลิง ยงพูเขียว อายุ 54 ปี ชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ ออกจากบ้านไปทำงานรับจ้างต่างจังหวัด ก่อนถูกนายหน้าคนไทยไม่ทราบชื่อชักชวนไปทำงานเป็นคนงานในเรือประมงเมื่อปี 2545 โดยตกลงค่าจ้างเป็นรายเดือนๆละ 8,500 บาท มีเงื่อนไขว่าให้กลับขึ้นฝั่งได้เดือนละ 1 ครั้ง นายเถลิง จึงตกลงไปทำงานด้วย
จากนั้นนายหน้าคนดังกล่าวจึงพานายเถลิงและคนงานอื่นๆจำนวน10 คน ทั้งคนไทยและคนเมียนมา เดินทางไปขึ้นเรือที่ จ.พังงา ในเวลากลางคืน สภาพการทำงานเป็นการทำงานบนเรือประมงลากอวนขนาดใหญ่ทั้งวันทั้งคืน ไม่มีการลงเวลาทำงาน ไม่มีวันหยุด นายจ้างจัดอาหารให้จำกัดรวม 3 มื้อและได้ยึดบัตรประจำตัวประชาชนไว้ตั้งแต่ขึ้นเรือ
ต่อมาประมาณเดือน ก.ย.หรือ ต.ค.2560 ได้มีเรือเล็กเข้าไปรับนายเถลิง พร้อมด้วยลูกเรือประมงรวม 20 คน กลับเข้าฝั่ง จ.พังงาในเวลากลางคืน เพื่อสับเปลี่ยนลูกเรือประมงชุดใหม่ เมื่อขึ้นฝั่งนายเถลิง และลูกเรืออื่นๆ จึงแยกย้ายกัน โดยไม่ได้รับเงินค่าจ้างหรือเงินอื่นใด รวมระยะเวลาที่อยู่บนเรือประมงประมาน 15 ปี
นางเพชรรัตน์ กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานในพื้นที่ได้ลงเข้าตรวจเยี่ยมที่บ้านของนายเถลิง เพื่อสอบถามถึงความต้องการความช่วยเหลือในด้านต่างๆ โดยมอบหมายให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานประสานให้ความคุ้มครองตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน การถูกเอารัดเอาเปรียบ รวมถึงประเด็นการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน หรือประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง กรมการจัดหางานดำเนินการประสานให้ความช่วยเหลือด้านการประกอบอาชีพ และจัดหาตำแหน่งงานตามที่มีความถนัดให้ทำ นอกจากนี้ รมว.แรงงาน ยังมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมรับผิดชอบดูแลเกี่ยวกับการรับเข้าระบบประกันสังคม หากมีความประสงค์จะเป็นผู้ประกันตน
ทั้งนี้ ยังกำชับให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงแรงงานบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้าน เพื่อให้ความช่วยเหลือและหามาตรการเยียวยาแก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการใช้แรงงานอย่างผิดกฎหมาย ให้มีความเป็นอยู่และมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป อย่างไรก็ตามหากพบเบาะแสการใช้แรงงานในลักษณะบังคับหรือการจ้างงานแบบผิดกฎหมายแรงงาน สามารถโทรแจ้งได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 3 กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน .-สำนักข่าวไทย