รองฯศรีวราห์ยันทำสำนวนล่าเสือดำรัดกุม ขู่ฟ้องพวกชอบสงสัยสำนวน

กทม.26 มี.ค. – รองฯศรีวราห์ ยันอัยการไม่ได้ตีกลับสำนวนสอบสวนคดีล่าเสือดำ 2 ครั้งตามที่มีข่าว พร้อมย้ำสำนวนรัดกุมแน่นหนา ขู่ฟ้องพวกชอบตั้งคำถามการทำสำนวนคดี 


พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณ์กุล รอง ผบ.ตร. ยืนยันอัยการไม่ได้ตีกลับสำนวนรอบ 2 ให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเติมคดีนายเปรมชัย กรรณสูตร กับพวกล่าเสือดำ จึงเป็นการสอบสวนเพิ่มตามคำสั่งของอัยการครั้งแรกและได้ส่งประเด็นที่สอบเพิ่มไปเมื่อ 22 มีนาคมที่ผ่านมา

พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยอมรับว่า รู้อยู่แล้วว่า อัยการต้องสั่งสอบเพิ่มเติม เนื่องจากสำนวนยังขาดพยานหลักฐานบางส่วน ล่าสุดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ส่งหลักฐาน คือ ดีเอ็นเอสัตว์ป่าที่เก็บจากวัตถุพยาน เช่น ถุงดำทิ้งขยะ รวมทั้งมูลค่าความเสียหายจากการล่าสัตว์ป่าของนายเปรมชัยและพวก เกือบ 13 ล้านบาท ให้พนักงานสอบสวน ซึ่งจะรวบรวมนำส่งให้อัยการประกอบสำนวน เพื่อฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับกลุ่มผู้ต้องหา


พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยืนยันสำนวนรัดกุมแน่นหนา ไม่อ่อนหรือมีจุดโหว่อย่างที่ถูกตั้งข้อสังเกตุ ว่า สำนวนอ่อนเพราะพนักงานสอบสวน ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า กระสุนลูกปลายที่พบในตัวเสือดำ ยิงจากปืนของกลางกระบอกใด รวมทั้งผลตรวจอุจจาระที่พบในที่เกิดเหตุ ไม่มีดีเอ็นเอเสือดำ อาจเป็นข้อต่อสู้คดีของฝ่ายนายเปรมชัยว่า การบรรยายฟ้องของพนักงานสอบสวนเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่คดีนี้มีหลักฐานสำคัญ คือ ดีเอ็นเอที่พบในมีด และเขียง ซึ่งในสำนวนระบุชัดเจนว่า เสือดำตายเพราะถูกปืนยิง มีดเอาไว้ชำแหละ ส่วนมีดอีโต้ ไว้สับกระดูก โดยผู้ต้องหาแบ่งหน้าที่กันทำงานชัดเจน กรณีอุจจาระและกระสุนปืนลูกปลายพิสูจน์ไม่ได้ว่ายิงจากปืนกระบอกใด จึงไม่มีผลต่อสำนวนคดี พร้อมขู่จะฟ้องกลับผู้ชอบตั้งคำถามต่อการทำสำนวนคดีนายเปรมชัยหากทำให้ตำรวจเสียหาย พร้อมระบุว่า คนพวกนี้ น่าจะเป็นพวกว่างงาน

พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยังระบุด้วยว่า พนักงานสอบสวน ปทส. ได้แจ้งข้อหาเพิ่มต่อนายเปรมชัย หลังกรมศุลกากร ยืนยันไม่พบข้อมูลการขอนำเข้างาช้างจากต่างประเทศ โดยแจ้งข้อหาตามความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา 27 ทวิ ระะวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปีหรือปรับเป็นเงินสี่เท่าราคาของงาช้าง รวมค่าอากร หรือทั้งปรับทั้งจำ ซึ่งกรณีงาช้าง 4 กิ่งที่ยึดจากบ้านพักนายเปรมชัย ตีมูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อนับข้อหารวมกันทุกคดี ขณะนี้นายเปรมชัย ถูกแจ้งข้อหาแล้ว 13 ข้อหา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง