25 มี.ค. – นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกับภาคีเครือข่าย 157 หน่วยงาน อาทิ การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ผู้บริหาร WWF ประเทศไทย ผู้แทนมูลนิธิ FEED ฯลฯ เปิดกิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour 2018) ระหว่าง เวลา 20.30 – 21.30 น. โดยได้ร่วมกันสับสวิทซ์ เพื่อแสดงพลังและสัญลักษณ์ของการจัดกิจกรรมฯ เมื่อเวลา 20.30 น.เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม โดยการปิดไฟที่ไม่จำเป็น และร่วมแชร์การมีส่วนร่วมกิจกรรมผ่านสังคมโซเชียลด้วยการใช้แฮชแทค#connect2earth หรือ#ปิดเพื่อโลกเปลี่ยนเพื่ออนาคตหรือ #ลดเพราะรักษ์
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11 ซึ่งได้ขยายผลไปทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ รวม 50 เขต และมีอาคาร เข้าร่วมปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ 65 แห่ง และ ถนน 50 สาย โดยสามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ โดยเมื่อปี 2560 สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ 1,953 เมกะวัตต์ เทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1,016 ตัน และคิดเป็นมูลราคา 7.68 ล้านบาท กรุงเทพมหานครคาดหวังว่ากิจกรรมที่เกิดขึ้นนี้จะนำไปสู่การผลักดันให้ทุกภาคส่วนในประเทศไทยเห็นถึงความสำคัญในการลดภาวะโลกร้อนอย่างจริงจังเช่นเดียวกับนานาประเทศทั่วโลก การแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนจะเป็นไปได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับประชาชนทุกคนร่วมแรงร่วมใจการปฏิบัติอย่างง่ายๆ แต่จริงจังในทุกๆวัน อาทิ การประหยัดไฟ ใช้ไฟฟ้าเท่าที่จำเป็น ถอดปลั๊กไฟทุกครั้ง เมื่อไม่ใช้งาน หรือหลีกเลี่ยงการใช้ไฟฟ้าในบ้านเรือนในปริมาณมากในเวลาเดียวกัน การปลูกต้นไม้ การใช้รถยนต์สาธารณะ การขี่จักรยานฯลฯ ที่เป็นวิธีง่ายง่ายที่สามารถทำได้ ซึ่งความร่วมมือเล็กๆ แต่เมื่อทำมากๆ ก็จะเป็นพลังในการลดปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืน
ด้าน นายสารนิต อังศุสิงห์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. เปิดเผยว่า หลังการจัดกิจกรรมดังกล่าว สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ตามหมายที่กำหนด คือ ร้อยละ 10 คือ ลดความต้องการใช้ไฟฟ้าได้ 2,002 เมกะวัตต์ เมื่อเทียบกับความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดปีที่ผ่านมา สามารถลดคาร์ลอนไดออกไซด์ ได้ 1,026 ตัน และลดค่าไฟฟ้าได้ 7,863,635 บาท. -สำนักข่าวไทย