กรมสุขภาพจิต หวั่นภัยเลียนแบบวิธีฆ่าตัวตาย

สธ.7 มี.ค.-กรมสุขภาพจิต ห่วงการได้รับข้อมูลข่าวสารเพียงช่วงเวลาสั้นๆไม่ถึงนาทีมีผลต่อการตัดสินใจของผู้มีแนวโน้มจะฆ่าตัวตาย ชี้ควรเผยแพร่ข่าวสารด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการให้รายละเอียด วิธีการ ภาพ โดยเฉพาะการฆ่าตัวตายของคนที่มีชื่อเสียง คนดัง ดารา เร่งให้ความรู้ผู้เกี่ยวข้องผ่านสื่อเทคโนโลยีทันสมัย และพัฒนาระบบบริการ เพื่อการป้องกันปัญหา


น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ต่อกรณีข่าวการฆ่าตัวตายด้วยวิธีการที่ไม่ค่อยพบเห็นได้บ่อยนักในสังคมไทย แต่พบได้บ่อยในต่างประเทศ กรมสุขภาพจิตมีความเป็นห่วงอยากให้ประชาชนไทยตระหนักถึงพฤติกรรมเลียนแบบวิธีการการฆ่าตัวตายของคนอื่น(copycat suicide หรือ suicide contagion)จากการได้รับข้อมูล การได้เห็นภาพ ได้ฟังการพรรณนาบรรยายในเรื่องการฆ่าตัวตาย หรือวิธีการฆ่าตัวตายจากสื่อ 


ทั้งนี้ มีผลงานวิจัยพบว่าข่าวการฆ่าตัวตายสัมพันธ์กับอัตราการฆ่าตัวตายที่เพิ่มขึ้น สัดส่วนมากน้อยตามระยะเวลา ความถี่และปริมาณข่าว โดยการเลียนแบบมักเกิดขึ้นภายหลังการรับข่าวที่น่าสะเทือนใจ บรรยายวิธีการกระทำโดยละเอียด นำเสนอซ้ำบ่อยๆ หรือทำให้คิดว่าเป็นเรื่องน่าประทับใจ เป็นความกล้าหาญ ซึ่งในทางจิตวิทยา การรับข้อมูลข่าวสาร เพียงช่วงเวลาสั้นๆไม่ถึงนาที มีผลต่อการตัดสินใจของผู้มีแนวโน้มฆ่าตัวตาย กรมสุขภาพจิต จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันป้องกัน โดยในส่วนของผู้มีบทบาทเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารควรดำเนินการด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการให้รายละเอียด วิธีการ ภาพ โดยเฉพาะการฆ่าตัวตายของคนที่มีชื่อเสียง คนดัง ดารา ให้เลี่ยงเสนอข่าวซ้ำๆ ถี่ๆ  

ด้าน นพ.ณัฐกร จำปาทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ จังหวัดขอนแก่นกล่าวว่า สาเหตุการฆ่าตัวตายมีหลายปัจจัย ทั้งสาเหตุทางด้านจิตใจและอารมณ์ เช่น โรคซึมเศร้าที่พบมากขึ้นในปัจจุบันเนื่องจากสภาพสังคมเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สาเหตุทางด้านจิตวิญญาณ สาเหตุทางด้านสติปัญญา สาเหตุด้านครอบครัว สาเหตุทางด้านพฤติกรรมและสังคม วัฒนธรรมสิ่งแวดล้อม สาเหตุด้านเศรษฐกิจ     ซึ่งผู้ที่พยายามฆ่าตัวตาย หรือฆ่าตัวตายได้สำเร็จ มักมีปัญหาความยุ่งยากใจมากกว่าหนึ่งปัญหาเสมอ ดังนั้นจึงไม่ควรด่วนสรุปสาเหตุการฆ่าตัวตายของคนคนหนึ่ง


สำหรับบุคคลทั่วไปขอให้หมั่นสังเกตคนใกล้ชิด คนในครอบครัว หากพบมีอาการเศร้า เบื่อ เซ็ง คิดวนเวียน นอนไม่หลับ มองโลกในแง่ลบ แยกตัว ซึ่งเป็นอาการบ่งชี้ของโรคซึมเศร้า หรือคนที่มักพูด หรือโพสต์ข้อความเชิง    สั่งเสีย ไม่อยากมีชีวิตอยู่ หมดหวังในชีวิต ซึ่งเป็นสัญญาณเสี่ยงฆ่าตัวตาย ขอให้รีบเข้าไปพูดคุย แสดงความเต็มใจช่วยเหลือ ยอมรับปัญหาของเขา ให้กำลังใจ ไม่ปล่อยให้อยู่ลำพังคนเดียว ชักชวนออกไปทำกิจกรรมข้างนอก และพาไปรับบริการที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน หรือปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต โทร. 1323 หรือ เรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมที่แอพพลิเคชั่นสบายใจ (sabaijai) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก