กรมการแพทย์ 23 ก.พ.-กรมการแพทย์ เตือนสักผิวหนังตามกระแสแฟชั่นนิยม หรือตามความเชื่อส่วนบุคคล ควรคำนึงถึงผลดีผลเสียที่อาจเกิดขึ้น เสี่ยงติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี โรคเรื้อน โรคเอดส์
นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า การสักผิวหนังเป็นรูปภาพหรือลวดลายที่สวยงาม เช่น รูปผีเสื้อ ดอกไม้สัญลักษณ์ต่างๆ สีที่ใช้ในการสักส่วนใหญ่จะนิยมสักสีดำ ยกเว้นในรายที่สักเป็นรูปภาพต่างๆ จะนิยมสักหลากหลายสี เช่น สีน้ำเงิน สีแดง สีเหลือง สีเขียว ในความสวยงามของสีสันและลวดลาย การสักผิวหนังมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ที่พึงระวัง เช่นอันตรายจากสีที่ใช้ในการสักทำให้เกิดอาการแพ้ เป็นผื่นหรือตุ่มแดง คันในตำแหน่งของรอยสักถ้าไม่ได้รับการรักษาหรือปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้ผื่นเห่อมากขึ้นได้
นอกจากนี้เมื่อโดนแดดเป็นเวลานานๆหรือบ่อยครั้งในคนที่มีโรคผิวหนังอยู่เดิม เช่น โรคสะเก็ดเงินอาจพบว่ามีผื่นของโรคสะเก็ดเงินกำเริบในบริเวณรอยสัก และการสักผิวหนังยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี วัณโรค โรคเรื้อน โรคเอดส์ จากการใช้เข็มในการสักผิวหนังที่ไม่สะอาด ไม่ผ่านการทำให้ปลอดเชื้อ หรือใช้เข็มร่วมกับคนอื่น
ด้าน พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวว่า ก่อนตัดสินใจสักผิวหนัง ควรคำนึงถึงผลดีผลเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการสัก รวมทั้งหาข้อมูลสถานประกอบการที่เชื่อถือได้ก่อนรับบริการ เพราะเมื่อสักผิวหนังไปแล้ว ภายหลังเกิดไม่ต้องการหรือไม่ชอบใจรูปที่สักไว้ ต้องการลบรอยสัก ผิวหนังบริเวณนั้นจะไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้และต้องทำการรักษาต่อเนื่องหลายครั้ง เช่นลบรอยสักโดยการใช้เลเซอร์อาจเกิดผลข้างเคียง เกิดรอยแผลเป็นแดงนูน ที่เรียกว่า คีลอยด์ ซึ่งต้องรักษารอยแผลเป็นอีก ทำให้เสียเวลาและเสียเงินค่ารักษา .-สำนักข่าวไทย