ก.คลัง 14 ก.พ. – ธ.ก.ส.มอบของขวัญวันวาเลนไทน์ เตรียมเสนอบอร์ดขยายสินเชื่อเอสเอ็มอีเกษตร 5 หมื่นล้าน พร้อมออกสินเชื่อสีเขียวดอกเบี้ยต่ำหนุนพลังงานทดแทน ย้ำรายย่อยชำระดีได้รับเงินดอกเบี้ยคืนร้อยละ 30 ในปี 61 แนะผู้ถือบัตรเร่งแจ้งพัฒนาอาชีพแจ้งยอดแล้ว 2 ล้านราย ยืนยันจำนำยุ้งฉางปี 60-10 ไม่ขาดทุนหลังราคาข้าวขยับสูงขึ้น
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ปล่อยสินเชื่อ 1 เอสเอ็มอี 1 ตำบล จำนวน 62,000 ล้านบาท คาดว่าสิ้นเดือนมีนาคมนี้ปล่อยครบทุกตำบล วงเงิน 72,000 ล้านบาท นับว่าวงเงินเกือบเต็มแล้ว จึงเตรียมเสนอบอร์ด ธ.ก.ส. ขยายโครงการออกไปอีก 3 ปี เพื่อปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีภาคเกษตร วงเงิน 50,000 ล้านบาท จากเดิมปล่อยกู้ 10 ล้านบาทต่อราย เพิ่มเป็น 20 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ช่วง 3 ปีแรก เนื่องจากมีกลุ่มสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรนับร้อยรายต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพิ่ม
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ธ.ก.ส.เห็นชอบให้ธนาคารดำเนินโครงการส่งเสริมและสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว (Green Credit) เพื่อส่งเสริมการผลิตเกษตรอินทรีย์ หรืออาหารปลอดภัย (Food Safety) ได้มาตรฐานรับรอง หวังส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน หรือพลังงานสะอาด การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมตลอดจนวิถีชุมชน วงเงิน 5,000 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย MRR-ร้อยละ 1 กรณีลูกค้ารายคนร้อยละ 6 และ MLR–ร้อยละ 0.5 หรือประมาณร้อยละ 4.5 ปล่อยสินเชื่อได้ถึงปี 2564 เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
นายอภิรมย์ กล่าวย้ำว่า หลังออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย “โครงการชำระดีมีคืน” ธ.ก.ส.ที่มียอดต้นเงินคงเป็นหนี้ ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ไม่เกิน 300,000 บาท จำนวน 2.3 ล้านราย รวมต้นเงินกู้ 220,000 ล้านบาท ใช้รูปแบบหากใครชำระดีต่อเนื่องเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2561 เตรียมคืนดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 30 ให้กับเกษตรกรลูกค้า ดอกเบี้ยเมื่อคิดกลับคืนเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับดอกเบี้ยเงินกู้จะอยู่ที่ร้อยละ 4.9 สำหรับการคืนดอกเบี้ยจะส่งให้ในเดือนถัดไปแบบอัตโนมัติเดือนละครั้ง เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2561 เพื่อนำดอกเบี้ยที่คืนตัดชำระต้นเงิน กรณีไม่มีหนี้คงเหลือธนาคารจะโอนเข้าบัญชีเงินฝากของลูกค้า พร้อมส่งข้อความสั้น (SMS) ให้เกษตรกรลูกค้าได้รับทราบทุกราย โครงการชำระดีมีคืนปีที่ผ่านมา ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 ธนาคารได้คืนเงินให้แก่ลูกค้าแล้วทั้งสิ้น 2,709 ล้านบาท คาดว่าคืนเงินดอกเบี้ยได้ 4,620 ล้านบาท เพื่อช่วยให้มีเงินนำไปใช้จ่ายหมุนเวียนในชีวิตประจำวัน
สำหรับมาตรการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเฟส 2 มีรายย่อยแจ้งความจำนงขอฝึกอบรมอาชีพ เพื่อรับเบี้ยสวัสดิการเพิ่ม 100 หรือ 200 บาทต่อเดือน ขณะนี้ลงทะเบียนผ่าน ธ.ก.ส.แล้ว 2 ล้านบาท จากยอดทั้งหมด 4 ล้านราย หลังจากนี้เตรียมส่งหมอประชารัฐสุขใจลงพื้นที่แนะนำอาชีพ คาดว่าเริ่มฝึกอบรมเดือนพฤษภาคม เพื่อให้มีความรู้เพิ่มทั้งอาชีพเสริม อาชีพหลัก การค้าออนไลน์ และความรู้ด้านต่าง ๆเพิ่มเติม
ส่วนโครงการสินเชื่อชะลอการขาย แม้รัฐบาลชดเชยผลขาดทุนปี 2558/2559 แต่ปี 2559/2560 และปี 2560/2561 ต้องขอให้รัฐบาลชดเชยอย่างแน่นอน เนื่องจากราคาข้าวขยับสูงขึ้น จากเป้าหมายการรับจำนำยุ้งฉาง 1 ล้านตัน แต่มีเกษตรกรนำข้าวเปลือกมาเข้าโครงการชะลอการขายขณะนี้เพียง 600,000 ตัน เนื่องจากขายข้าวในตลาดได้ราคาดีกว่า และแม้จะเข้าโครงการยังมีผู้ไถ่ถอนคืนในสัดส่วนสูงมากในปี 2560 และ 2561 จึงไม่จำเป็นต้องของรัฐบาลชดเชย.-สำนักข่าวไทย