จอร์แดน 31 ม.ค.- จอร์แดนเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัญหาโลกร้อน ซึ่งทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำ เกษตรกรในจอร์แดนต้องนำวิธีทำการเกษตรแบบผสมผสานโดยมีวัตถุประสงค์ใช้ทรัพยากรน้ำให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ผลกระทบอย่างหนักจากปัญหาโลกร้อน ทำให้คาดกันว่า ภายในปี 2643 ปริมาณน้ำฝนในจอร์แดนจะลดลงถึงร้อยละ 30 หนทางหนึ่งในการรับมือกับผลกระทบนี้คือ การหาวิธีทำการเกษตรแบบผสมผสานโดยมีวัตถุประสงค์ใช้ทรัพยากรน้ำให้ได้ประโยชน์สูงสุด
ดาฟี จาราดัท อดีตวิศวกรโรงงานละทิ้งอาชีพวิศวกรหันมาทำการเกษตรแบบผสมผสานที่ฟาร์มของเขานอกกรุงอัมมาน ที่โคดรา ฟาร์มแห่งนี้ ดาฟีเลี้ยงปลาควบคู่ไปกับการปลูกผักไฮโดรโปรนิคที่ไม่ต้องใช้ดิน ดาฟียืนยันว่าฟาร์มของเขาใช้ทรัพยากรน้ำได้อย่างคุ้มค่าและใช้น้ำน้อยกว่าการทำการเกษตรแบบเดิมๆ
ดาฟีอธิบายให้ฟังว่า ของเสียจากปลาที่เลี้ยงไว้จะถูกถ่ายเทจากบ่อเลี้ยงปลาไปยังถังเก็บของเสีย ซึ่งดาฟีจะใช้กระบวนการทางชีวภาพเปลี่ยนของเสียเหล่านี้ให้เป็นธาตุอาหาร จากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการกรอง น้ำที่ได้จากกระบวนการกรองจะอุดมไปด้วยธาตุอาหาร ซึ่งดาฟีจะนำไปใช้ในการปลูกผักไฮโดรโปนิคในฟาร์ม
ปัจจุบัน ฟาร์มของดาฟีปลูกผักไฮโดรโปนิคร่วม 15 ชนิด เช่น พาร์สลีย์ และ วอเตอร์เครส ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า การเพาะปลูกแบบผสมผสานมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับจอร์แดนซึ่งมีทรัพยากรน้ำอย่างจำกัด
เมื่อเร็วๆนี้ ธนาคารโลกระบุว่าปัญหาขาดแคลนน้ำในจอร์แดน อิรัก เลบานอน โมรอกโกและซีเรีย มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นจากภาวะโลกร้อน ขณะที่คาดว่า ปัญหาการความแห้งแล้งในจอร์แดน ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นหนึ่งในประเทศที่แห้งแล้งที่สุดในโลก จะรุนแรงมากกว่านี้อีกสามเท่าตัวภายในปี 2643.-สำนักข่าวไทย