รมว.ศึกษาดึง ปปง.-ป.ป.ช.ร่วมตรวจสอบทุจริต

ศธ.18 ม.ค.-รมว.ศึกษาฯ ติดตามเเก้ปัญหาทุจริตในกระทรวงฯ ดึงป.ป.ช.-ปปง.ร่วมสอบสวนควบคู่ พร้อมเผยตั้ง คกก.สืบข้อเท็จจริงการก่อสร้าง‘อความเรียมหอยสังข์’ เเล้ว เร่งขยายผลสืบโครงการลักษณะเดียวกับการก่อสร้างหลังคาคลุมลานเอนกประสงค์ในโรงเรียน 3 จังหวัดชายเเดนใต้


นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนแก้ปัญหาทุจริตครั้งที่ 1/2561 ว่า ที่ประชุมได้พูดคุยถึงความคืบหน้าการดำเนินการเเก้ปัญหาการทุจริตของหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งที่ผ่านมาพบปัญหาว่าเวลามีการสอบสวนวินัย ไม่ได้เเจ้งไปยังสำนักงานป้องกันเเละปราบปรามการทุจริตเเห่งชาติ(ป.ป.ช.) เเต่จะส่งให้ต่อเมื่อดำเนินการสอบสวนเสร็จสิ้นเเล้ว ซึ่งทำให้เกิดความล่าช้า 


หลังจากนี้ได้ให้นโยบายว่า หากดำเนินการสอบสวนเรื่องทุจริตใดหรือมีข้าราชการทำผิดระเบียบเพื่อความสะดวกรวดเร็วสิ่งที่ต้องทำเป็นอัตโนมัติคือต้องส่งเรื่องไปให้ทาง ป.ป.ช.เเละสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)เพื่อดำเนินการสอบสวนคู่ขนานกันไป โดยปปง.เองเเจ้งว่าถ้ามีการสอบสวนแล้วพบว่า มีการเรียกรับเงิน หรือมีโครงการเกิดขึ้น แล้วมีมูลในขั้นการสืบสวนข้อเท็จจริง สามารถส่งให้ปปง.เข้ามาสืบสวนได้ทันทีเพื่อสืบเส้นทางการเงินได้ด้วย 


รมว.ศึกษาฯ กล่าวต่อไปว่า ในเร็วๆนี้จะเข้าหารือเข้าปปง.เพื่อทำข้อตกลงเเละออกระเบียบปฏิบัติที่ชัดเจน ซึ่งมีข้อเสนอจากทั้งปปง. ป.ป.ช.เเละสำนักงานตรวจเงินเเผ่นดิน(สตง.)ว่าควรมีคนเกาะติดคดีทุจริตที่สำคัญ อาทิ โครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวีใน 3 จังหวัดชายเเดนใต้ ตนจึงมอบให้พล.ท.โกศล  ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการ รับผิดชอบเพื่อให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความรวดเร็ว

รมว.ศธ.กล่าวด้วยว่า ส่วนความคืบหน้าในคดีทุจริต กรณีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 15ใช้เงินงบประมาณเหลือจ่ายประจำปีงบประมาณ 2559 ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 62 ล้านบาทก่อสร้างหลังคาคลุมลานอเนกประสงค์ของ 11 โรงเรียนในพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังมีโรงเรียนในโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนใต้ จำนวน 4 โรงเรียน ซึ่ง สตง.ได้ส่งเรื่องกระทรวงเเละเเจ้งว่าน่าจะมีการตรวจสอบโครงการในลักษณะเดียวกันของพื้นที่อื่นด้วย , กรณีโครงการสร้างสนามฟุตซอล พบว่า ครูที่ตรวจรับผิดวินัยไม่ร้ายเเรง ส่วนฝ่ายอื่นๆหรือนักการเมืองที่อาจเอี่ยวด้วยยังอยู่ในกระบวนการสืบสวน ไม่สามารถสรุปข้อมูลได้ เเต่ก็ได้มีการเร่งรัดให้รวดเร็วที่สุด/ เเละกรณีความคืบหน้าการแก้ปัญหาโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา จังหวัดสงขลา หรืออควาเรี่ยมหอยสังข์ ของวิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาที่ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 10 ปี แต่ยังไม่เสร็จสิ้นของ เรื่องนี้นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการกอศ.ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเเล้ว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก