เยอรมนี 10 ต.ค. – รัฐบาลหวังนำรูปแบบการพัฒนาอุตสาหกรรมเยอรมนีปรับใช้กับผู้ประกอบการไทย เตรียมนัดถกกระทรวงอุตสาหกรรม พาณิชย์ บีโอไอ และภาคเอกชน เพื่อปรับแผนการผลิตเอกชนรับอุตสาหกรรม 4.0
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะรัฐบาลไทยเดินทางไปชี้แจงการลงทุน ณ สาธารณรัฐเยอรมนี มีเป้าหมายการหาแนวทางยกระดับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย เพื่อผลักดันไปสู่นโยบายเอสเอ็มอี 4.0 จึงได้เดินทางหารือกับผู้บริหารของศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยเทคนิคดาร์มสตัด เป็นศูนย์วิจัยของรัฐบาลเยอรมนีจัดตั้งทั่วประเทศ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายเอสเอ็มอี 4.0 ให้แก่ผู้ประกอบการ เน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลทุกกระบวนการผลิต เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เช่น การฝังชิพทุกชิ้นส่วนอุปกรณ์ เพื่อรับรู้ข้อมูลการผลิตอย่างละเอียด
นายสมคิด กล่าวว่า รัฐบาลไทยกำลังขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกในช่วง 5 ปีข้างหน้า ภาคเอกชนเยอรมนีจึงต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย จึงเตรียมนัดหารือกระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสหากรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สถาบันการเงิน เพื่อร่วมขับเคลื่อนนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อปรับเปลี่ยนภาคอุตสาหกรรมและปรับรูปแบบการสอนนำนักเรียนอาชีวะมาช่วยพัฒนาเอกชนตามนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากเยอรมนีเป็นประเทศมีอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย เนื่องจากพัฒนาด้วยเทคโนโลยีสูงแทบทุกอุตสาหกรรมผ่านความร่วมมือระหว่างระหว่างผู้ผลิต มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย เพื่อยกระดับศักยภาพการผลิตให้มีมูลค่าสูงขึ้นมีประสิทธิภาพการผลิตมากขึ้น โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยเทคนิคดาร์มสตัดท์ได้มีสถาบันการเงินรัฐบาลและเอกชนร่วมกันสนับสนุนพื้นที่เป็นโรงผลิต เพื่อสอนนักศึกษาด้วยเครื่องมือครบวงจร
ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่างบีเอ็มดับบลิวอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายการลงทุนครั้งใหญ่ จึงสนใจขยายการลงุทุนในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกและยังสนใจเมื่อรัฐบาลเดินหน้าพัฒนาภาคอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก คาดว่าจะสรุปแผนลงทุนได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ เนื่องจากมองว่าในอนาคตไทยจะเป็นศูนย์ลกลางอาเซียน จากเดิมมุ่งลงทุนในจีน อินโดนีเซีย เวียดนาม และพร้อมยึดโมเดลแบบประชารัฐ ไม่ใช่การลงทุนผลิตรถยนต์เพียงอย่างเดียว จึงต้องร่วมกับสถาบันศึกษา กระทรวงแรงงานสร้างบุคลาการด้านวิศวะ หรือช่างรถยนต์เตรียมรับอนาคตข้างหน้า รวมทั้งกลุ่มธุรกิจเป็นยักษ์ใหญ่ “เรนซิ่ง” มีความเข้มแข็งด้านสิ่งทอ เนื่องจากเดิมอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยเคยยิ่งใหญ่สร้างแรงงาน และรับจ้างการผลิต จึงต้องการพัฒนาอุตสหากรรมสิ่งทอในยุค 4.0 ฟื้นอุตสาหกรรมสร้างมูลค่าเพิ่ม เมื่อเดินทางมาโรดโชว์ที่ฝรั่งเศสและเยอรมนีแล้ว เตรียมเยือนอังกฤษ เนื่องจากยุโรปเป็นกลุ่มประเทที่อุตสาหกรรมมีความเจริญสูงมาก .-สำนักข่าวไทย