กยท.ยืนยันประมูลปุ๋ยโปร่งใส

กรุงเทพฯ  10 ม.ค. – กยท.ยืนยันประมูลปุ๋ยโปร่งใส ดำเนินการตาม พ.ร.บ. การยางฯ สามารถตรวจสอบได้ พร้อมย้ำปัจจัยการผลิตไม่ใช่ทุนให้เปล่าต้องใช้ตามวัตถุประสงค์


นายสุนันท์ นวลพรหมสกุล รองผู้ว่าการ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ในฐานะรองโฆษก กล่าวถึงประเด็นที่มีผู้กล่าวหาการจัดซื้อปุ๋ยของ กยท. ว่า การจัดหาปุ๋ยให้ชาวสวนยางที่ได้รับทุนปลูกแทน เป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 มาตรา 37 วรรค 2 ที่ได้บัญญัติไว้ว่าการปลูกแทนให้ส่งเสริมและสนับสนุนโดยการจ่ายให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางซึ่งยางพันธุ์ดี พันธุ์ไม้ยืนต้น พันธุ์พืช ปุ๋ย เครื่องมือเครื่องใช้ จัดบริการอย่างอื่นช่วยเหลือ หรือจ่ายเงินให้ก็ได้ ทั้งนี้ จะจัดให้อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างก็ได้ ซึ่งการจ่ายค่าปุ๋ยที่ผ่านมาดำเนินการหลายรูปแบบ ทั้งการจ่ายเป็นเงินให้เกษตรกรไปซื้อปุ๋ยใส่เอง การโอนสิทธิ์การรับเงินค่าปุ๋ย ให้กลุ่ม/สถาบันเกษตรกรเป็นผู้จัดหาปุ๋ย และ กยท. เป็นผู้จัดหา ซึ่งแต่ละวิธีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย รวมถึงวิธีปฏิบัติที่แตกต่างกันไป 

นายสุนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขั้นตอนการจัดหาปุ๋ยเป็นไปตามระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกำหนดไว้ตั้งแต่การจัดทำขอบเขตของงาน (TOR) และเอกสารประมูลปุ๋ยนำประกาศร่างเอกสารประกวดราคาด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของส่วนราชการ เปิดให้มีการเสนอแนะและวิจารณ์โดยมีผู้เปิดเผยตัว ปรับปรุงแก้ไขร่างประกาศและร่างเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์พร้อมความเห็น ประกาศเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ลงเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของส่วนราชการอีกครั้ง ทั้งนี้การประมูลที่ผ่านมามีผู้ซื้อเอกสารประมูลปุ๋ยเคมี 11 ราย และประเภทปุ๋ยอินทรีย์ 20 ราย โดยผู้ที่ยื่นซองประมูลจะต้องดำเนินการประมูลด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีผู้รับผิดชอบจัดการประมูลทำหน้าที่ดำเนินการ 


สำหรับประเด็นสำคัญที่คณะกรรมการ กยท.เลือกใช้วิธีการจัดหาเองแทนการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกร เพราะข้อกฎหมายของ พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 ระบุไว้ชัดเจนว่าการให้ทุนเพื่อปลูกแทน ไม่ใช่เงินให้เปล่า แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องไปจัดหาปัจจัยการผลิตเท่านั้น ซึ่งอาจมีบางส่วนที่ได้รับเงินไปแล้วอาจไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ อีกทั้งคุณภาพของปุ๋ยที่จัดหาได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรสามารถตรวจสอบได้

“ชนิดและปริมาณปุ๋ยเป็นไปตามความต้องการใช้ของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางที่อยู่ในการสงเคราะห์ โดยมี กยท.ระดับจังหวัดประสานกับกลุ่ม/สถาบันเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ  การจัดหาปุ๋ยครั้งนี้ดำเนินการในพื้นที่ปลูกยางพาราหลัก 18 จังหวัด ได้แก่ ภาคใต้ 14 จังหวัด รวมกับประจวบคีรีขันธ์  ระยอง จันทบุรี และตราด เป็นปุ๋ยเคมี 34,724.2 ตัน และปุ๋ยอินทรีย์ 30,000 ตัน รวม 64,724.2 ตัน ที่สำคัญตรวจรับและสุ่มตัวอย่างปุ๋ย เพื่อส่งวิเคราะห์ปลายทางจุดจ่ายประมาณ 300 จุด ซึ่งมีตัวแทนเกษตรกรและเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร กรรมการตรวจวิเคราะห์ปุ๋ย ก่อนที่จะส่งปุ๋ยที่มีคุณภาพถึงมือเกษตรกรชาวสวนยางผู้ใช้ต่อไป” นายสุนันท์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส