กรุงเทพฯ 10 ธ.ค.-กระทรวงคมนาคมคุมเข้มความปลอดภัยรองรับการเดินทางช่วงวันหยุดยาว-เทศกาลปีใหม่ เดินสายตรวจทั้งผู้ขับขี่-สภาพรถ หากพบผิดกฏหมายซ้ำซาก เพิกถอนใบอนุญาต
นายนพรัตน์ การุณยวนิช รองผู้จัดการใหญ่ บริษัทขนส่ง จำกัด(บขส.) เปิดเผยถึงการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดยาว 3 วันนี้ (10-12 ธันวาคม 2559) เชื่อว่าประชาชนยังเดินทางไม่มากนักเนื่องจากเป็นวันหยุดที่ใกล้เทศกาลปีใหม่ และส่วนใหญ่เตรียมตัวเดินช่วงปีใหม่มากกว่า อย่างไรก็ตาม ช่วง3 วันนี้ บขส ยังใช้จำนวนเที่ยวรถที่ให้บริการปกติโดยมีเที่ยวรถวิ่งวันละ 7670 เที่ยว ต่อวัน รองรับผู้โดยสารได้สูงสุดวันละ 150,000 คน จากปกติเฉลี่ยวันละ 120,000 คนเท่านั้น ส่วนเทศกาลปีใหม่ 2560 ที่กำลังมาถึง บขส. ได้เพิ่มเที่ยวรถวิ่งอีก กว่า 600 เที่ยวต่อวัน โดยกำหนดเป้าหมายที่จะรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึงวันละ 180,000 คน เชื่อว่าจะเพียงพอต่อการใช้บริการ
“การดูแลความปลอดภัยของการเดินทางได้คุมเข้มทั้งการดูแลคนขับ ให้พร้อมปฎิบัติหน้าที่ การตรวจสอบระบบจีพีเอส เพื่อใช้ติดตามรถทั้งในส่วนของรถ บขส. และรถร่วมบริการทุกคัน” นายนพรัตน์กล่าว
ด้านนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่าในการเตรียมพร้อมรองรับการเดินทางในเทศกาลปีใหม่ 2560เตรียมแผนทั้งเพิ่มขบวนรถและความปลอดภัย โดยจะมีการให้บริการขบวนรถไฟฟรีเพิ่มขึ้นอีกวันละ 10 ขบวน ในเส้นทาง อุบลราชธานี อุดรธานี และศิลาอาสน์ ในช่วงวันที่ 30-31ธันวาคม และวันที่ 2-4 มกราคม 2560รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 700-800คนต่อขบวน รวมถึงการพ่วงโบกี้ในรถด่วนและรถเร็วทุกเส้นทางอีก 120 โบกี้ ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้นในเส้นทางสายเหนือและสายอีสานโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดตรัง จังหวัดนครศรีธรรมราชและหาดใหญ่ ตลอดจนพิจารณาเปิดเดินรถเพิ่มเติมในเส้นทางสายใต้อีกด้วย ทั้งนี้คาดว่าจะต้องรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 120,000 คนต่อวันในช่วงเทศกาลปีใหม่ จากปัจจุบันยอดผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่80,000-90,000 คนต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นจากเวลาปกติอีกวันละ30,000 คน
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่าว่า ช่วงการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2559 – 4 มกราคม 2560 ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานดูแลจัดเตรียมรถโดยสารสาธารณะให้เพียงพอเพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง และด้านความปลอดภัยได้มอบหมายสำนักงานขนส่งจังหวัดทุกแห่งออกตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะควบคู่กับการตรวจความพร้อมตรวจสารเสพติดและแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถก่อนออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสาร รวมถึงที่จุดจอด/จุดพักรถ และจุดตรวจความพร้อม 12 จังหวัดบนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ ได้แก่ กำแพงเพชร พิษณุโลก ลำปาง นครสวรรค์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ขอนแก่น ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา และระยอง โดยให้พนักงานขับรถลงมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง
นอกจากนี้ ได้จัดหน่วยเคลื่อนที่ออกตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะด้วยกล้องเลเซอร์ในเส้นทางสายหลักเข้า–ออกกรุงเทพมหานคร และติดตามรถโดยสารสาธารณะทุกคันผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ตลอดช่วงเทศกาลเพื่อติดตามพฤติกรรมการขับรถ การใช้ความเร็วภายใต้กฎหมายกำหนด และผู้โดยสารหากสามารถร้องเรียนการบริหารที่โทรศัพท์สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
“หากตรวจสอบพบผู้ขับรถฝ่าฝืนกระทำผิดกฎหมายหรือมีการกระทำผิดซ้ำซาก จะดำเนินมาตรการลงโทษเป็นลำดับขั้นตั้งแต่เปรียบเทียบปรับจนถึงพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ ผู้ประกอบการขนส่งที่ฝ่าฝืนไม่กำชับพนักงานขับรถปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง กรมการขนส่งทางบกลงโทษสูงสุดถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่ง” อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าว-สำนักข่าวไทย