ดีเอสไอ 19 ธ.ค.-ดีเอสไอ จับกุมผู้ต้องหาคดีแชร์ทองคำพีกาซัส ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สอบสวนพบยังมีพฤติกรรมชักชวนให้ลงทุนในธุรกิจค้าทองคำตัวใหม่และที่เข้าลักษณะแชร์ลูกโซ่อยู่อีกหลายตัว ย้ำให้ระวังการอ้างผลตอบแทนสูงกว่าอัตราที่สถาบันการเงินพึงจ่ายได้
ตามที่กระทรวงยุติธรรมได้มีนโยบายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามผู้กระทำความผิด “แชร์ลูกโซ่” หรือการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ และประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก นั้น พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ดำเนินการป้องกันและปราบปรามปัญหาแชร์ลูกโซ่ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นภัยต่อสังคม ในรูปแบบการปฏิบัติการเชิงรุก กับกลุ่มผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่อยู่ระหว่างการสอบสวนที่มีพฤติกรรมกระทำความผิดชัดเจน โดยถือเป็นนโยบายของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่จะดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจัง
ล่าสุดวันนี้ (19ธ.ค.)นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีฯ (พนักงานสอบสวนคดีพิเศษเชี่ยวชาญ) และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 125/2558 จับกุมผู้ต้องหาราย นางศุทธา หน่อสกูลคม ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2336/2560 ซึ่งเป็นคดีพิเศษที่อยู่ระหว่างการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีการหลอกลวงประชาชนร่วมลงทุนกับ บริษัท พีเอ็มบี พีกาซัส(ไทยแลนด์) จำกัด และ Pegasus Bullion Limited ที่อ้างว่าเป็นบริษัทค้าทองคำจากต่างประเทศ ซึ่งในทางสอบสวนพบว่าลักษณะธุรกิจตามที่กล่าวอ้างไม่ได้มีอยู่จริง ทำให้ผู้หลงร่วมลงทุนเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ระหว่างสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมในการชักชวนให้ประชาชนลงทุนในธุรกิจค้าทองคำตัวใหม่และธุรกิจที่เข้าลักษณะแชร์ลูกโซ่อีกหลายตัวอยู่ในปัจจุบัน โดยจับกุมได้ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จึงได้ร่วมกันควบคุมตัวไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขออำนาจศาลฝากขังต่อไป
อย่างไรก็ตามกรมสอบสวนคดีพิเศษขอฝากไปยังประชาชนให้เฝ้าระวังการชักชวนให้ร่วมลงทุนที่อ้างว่าจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราที่สถาบันการเงินพึงจ่ายได้ และมีการเสนอผลตอบแทนที่รวดเร็ว ดังนั้นเพื่อเป็นข้อเตือนใจสำหรับประชาชนหรือผู้นิยมการลงทุนในลักษณะดังกล่าว ขอให้ตรวจสอบความเป็นมาของบริษัทหรือประวัติของผู้ชักชวนว่า มีความสุ่มเสี่ยงหรือมีประวัติในการหลอกลวงให้ลงทุนในธุรกิจที่เข้าลักษณะแชร์ลูกโซ่หรือไม่
ทั้งนี้ หากพบว่าผู้ชักชวนเคยมีประวัติถูกดำเนินคดีหรือถูกสอบสวนในคดีเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ให้ใช้ความระมัดระวังในการร่วมลงทุนเป็นพิเศษ เนื่องจากบุคคลบางรายในระหว่างถูกสอบสวนอาจไม่ได้ถูกควบคุมตัว หากมีข้อสงสัยในธุรกิจใดหรือบุคคลผู้ชักชวนรายใด รวมถึงหากมีข้อมูลหรือเบาะแส สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร. 02 143 9034 (กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ) หรือ โทร. 1202 (โทรฟรีทั่วประเทศ)’
ขณะเดียวกันกรมสอบสวนคดีพิเศษกำลังเร่งติดตามดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่อีกหลายคดี ซึ่งคาดว่าจะทยอยแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับเพื่อนำผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป .-สำนักข่าวไทย