สุพรรณบุรี 15 ธ.ค.-สำนักข่าวไทยยังคงเกาะติดคดีหวยอลเวง ซึ่งเกิดขึ้นหลายจังหวัด โดยเฉพาะที่สุพรรณบุรี ตำรวจเชิญยายวัย 71 ที่แจ้งความว่าลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หาย และคนขายลอตเตอรี่เข้าเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ไปตรวจเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอ สลากที่ถูกรางวัล
นางประดับ จันทร์อ่วม พร้อมด้วยนางเครือวัลย์ ปานสินชัย และนายเปี๊ยก คนขายลอตเตอรี่ เข้าให้สอบปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี นานกว่า 2 ชั่วโมง จากนั้นตำรวจนำทั้ง 3 คน ไปยังกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรพรรณบุรี เพื่อเก็บดีเอ็นเอ ส่งกองพิสูจน์หลักฐานกลางตรวจสอบ เพื่อเร่งหาข้อเท็จจริงกรณีนางประดับ แจ้งความว่า ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 ธันวาคม หมายเลข 451005 แต่ทำหล่นหายภายในวัดบางขวาก อำเภอสามชุก แต่นางสาวพรทิพย์ ปาลวงศ์ นำไปขึ้นรางวัล นางประดับเปิดใจว่า ตอนนี้กำลังใจดี เพราะเชื่อมั่นว่าลอตเตอรี่เป็นของตนเอง โดยตนไม่ได้ไปบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไร เพราะคิดว่า ความจริงคือความจริง
ด้านประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้าพบพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรสามชุก เพื่อขอให้เร่งรัดการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยระบุว่าหลักฐานอีกอย่าง คือ น้ำหมากนางประดับที่เคี้ยวอยู่ภายในวันเกิดเหตุ หากมีดีเอ็นเอตรงกับลอตเตอรี่ใบที่ถูกรางวัล จะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ เนื่องจากว่า อีกฝ่ายไม่ได้เคี้ยวหมาก ขณะที่เงินรางวัลที่นางสาวพรทิพย์ เบิกไปแล้ว เบื้องต้นยังไม่ได้มีการอายัด และทราบว่ามีการเบิกเงินไปบางส่วน และขณะนี้ยังไม่สามารถติดตามตัว นางสาวพรทิพย์ ไปสอบปากคำ
ส่วนกรณีร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ นำล็อตเตอรี่รางวัลหมายเลข งวดที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมาไปขอขึ้นเงิน แต่ถูกนายปรีชา ใครครวญ ครูชำนาญการโรงเรียนเทพมงคลรังสี อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี แจ้งความร้องทุกข์ว่า เป็นสลากของตนที่หายไป พนักงานสอบสวนตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ออกหมายเรียก ร้อยตำรวจโท ไปตรวจดีเอ็นเอ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัล นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการทนายความประชาชน เปิดเผยว่า ไม่มั่นใจการทำงานของตำรวจพื้นที่ จึงขอให้กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เป็นคนตรวจพิสูจน์เอง จะน่าเชื่อถือกว่า และมั่นใจว่าร้อยตำรวจโทจรูญ เป็นผู้ถูกรางวัลจริง.-สำนักข่าวไทย