วอชิงตัน/เยรูซาเล็ม 6 ธ.ค.- เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะลงนามรับรองสถานะเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และย้ายสถานทูตสหรัฐจากกรุงเทลอาวีฟไปนครเยรูซาเล็ม ซึ่งจะถือเป็นการพลิกโฉมนโยบายสหรัฐครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปี และเสี่ยงสร้างความขัดแย้งรุนแรงในตะวันออกกลาง
เจ้าหน้าที่สหรัฐซึ่งไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า นายทรัมป์จะประกาศครั้งประวัติศาสตร์ด้วยการสั่งให้กระทรวงต่างประเทศร่างแผนย้ายสถานทูตออกจากกรุงเทลอาวีฟ ซึ่งคาดว่าจะมีกระบวนการนาน 3-4 ปี ท่ามกลางเสียงต่อต้านจากกลุ่มประเทศอาหรับ และจะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายสหรัฐครั้งใหญ่หลังจากที่วางเฉยมานานหลายสิบปีเรื่องสถานะเยรูซาเล็ม โดยให้เป็นการตัดสินใจในการเจรจากันระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ซึ่งต้องการครอบครองเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวงในอนาคต อย่างไรก็ตามประชาคมโลกไม่ได้รับรองอธิปไตยของอิสราเอลในเยรูซาเล็มทั้งหมด ซึ่งเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม ยิว และคริสต์ เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะออกแถลงการณ์ในบ่ายวันนี้ หรือค่ำวันพุธตามเวลาในไทย โดยยืนยันว่านายทรัมป์ทำตามที่ได้หาเสียงไว้ ทางด้านผู้นำปาเลสไตน์ สมเด็จพระราชาธิบดีจอร์แดน สมเด็จพระราชาธิบดีซาอุดีอาระเบีย และประธานาธิบดีอียิปต์ ต่างร่วมประสานเสียงเตือนความพยายามรับรองสถานะเยรูซาเล็มแต่เพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐ และเตือนว่าจะทำให้เกิดความวุ่นวายในภูมิภาค .- สำนักข่าวไทย