วอชิงตัน 5 ธ.ค.- แนวโน้มที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ผู้นำสหรัฐอาจย้ายสถานทูตในอิสราเอล ก่อให้เกิดกระแสคัดค้านจากเจ้าหน้าที่ต่างประเทศและเจ้าหน้าที่สหรัฐเองที่กังวลว่าจะยิ่งทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น
อย่างไรก็ตามแผนการย้ายสถานทูตสหรัฐในอิสราเอลจากกรุงเทลอาวีฟไปนครเยรูซาเล็มยังไม่มีข้อสรุป และจะถือเป็นการละเมิดนโยบายของสหรัฐเองที่ดำเนินมานานหลายสิบปีในการไม่แสดงจุดยืนต่อสถานะเยรูซาเล็ม โดยปล่อยให้เป็นการเจรจาและตัดสินใจระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ หากประธานาธิบดีทรัมป์ตัดสินใจเดินหน้าในเรื่องนี้ จะยิ่งทำให้เกิดกระแสต่อต้านและความรุนแรงจากฝั่งปาเลสไตน์ และมุสลิมทั่วโลก เนื่องจากจะเท่ากับรับรองว่าเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลซึ่งปาเลสไตน์ก็อ้างสิทธิครองครองเช่นกัน เจ้าหน้าที่ต่างประเทศสหรัฐสองคนซึ่งไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า แผนการรับรองเยรูซาเล็มเป็นที่คัดค้านของกองกิจการตะวันออกใกล้และเอกอัครราชทูตในภูมิภาคที่กังวลว่า จะกระทบต่อความมั่นคง เจ้าหน้าที่บางคนเกรงว่าจะส่งผลเสียต่ออิสราเอล รวมทั้งผลประโยชน์ของสหรัฐในตะวันออกกลาง .-สำนักข่าวไทย