ยอดเสียชีวิตจากเรือประมงล่มในเกาหลีใต้เพิ่มเป็น 13 คน

โซล 3 ธ.ค. – หน่วยยามฝั่งเกาหลีใต้ รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน และสูญหายอีก 2 คน จากเหตุเรือประมงเกาหลีใต้ชนกับเรือบรรทุกเชื้อเพลิงและอับปางลงในเช้าวันนี้


เจ้าหน้าที่ยามฝั่ง กล่าวว่า ช่วยชีวิตมาได้ 7 คน แต่อีก 2 คน ยังสูญหาย ซึ่งรวมถึงกัปตันเรือประมง ภายหลังจากที่มีผู้โดยสาร 22 คน อยู่บนเรือประมงขนาด 9.8 ตัน ที่ประสบเหตุล่ม หลังชนเข้ากับเรือบรรทุกเชื้อเพลิง ขนาดระวาง 336 ตัน บริเวณน่านน้ำทางเมืองท่าอินชอน ส่วนเรือบรรทุกเชื้อเพลิงไม่ได้รับความเสียหาย ประธานาธิบดีมุน แจ อิน สั่งการให้เจ้าหน้าที่ระดมกำลังทั้งเฮลิคอปเตอร์และเรือ ออกติดตามค้นหาผู้สูญหาย อีกด้านหนึ่งเจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำลูกเรือเติมเชื้อเพลิง เพื่อหาสาเหตุที่เรือชนกัน เกาหลีใต้มีรายงานอุบัติเหตุทางเรือหลายครั้งช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลังจากปี 2557 เหตุเรือเฟอร์รีอับปาง มีผู้เสียชีวิตกว่า 300 คน.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

พ่อขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิตจากตึก สตง.ถล่ม

พ่อของหนุ่มขอนแก่น วัย 35 ปี หนึ่งในผู้สูญหายจากอาคาร สตง.ถล่ม ขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิต ส่วนหนุ่มช่างประปา วัย 32 ปี เหยื่อตึก สตง.ถล่ม เผาแล้ว แม่ยังทำใจไม่ได้ สะอื้นไห้หน้าเมรุ

“ชัชชาติ” เผยเตรียมกู้ 5 ร่างที่พบ-ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเตรียมกู้ 5 ร่าง จาก 14 ร่างที่พบ ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน ยันไม่ขีดเส้นตายหยุดช่วยเหลือ ปรับแผนเพิ่มการรื้อถอนด้วยเครื่องจักรหนักควบคู่ไปมากขึ้น