ตลท. 13 ต.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายวันนี้ที่ระดับ 1,412.82 จุด เพิ่มขึ้น 6.64 จุด หรือร้อยละ 0.47 มูลค่าการซื้อขาย 103,973.27 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ผันผวนอย่างหนัก ดัชนีเคลื่อนไหวแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะภาคบ่ายร่วงลงไปต่ำสุดเกือบ 50 จุด ต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,356.79 จุด ก่อนที่ช่วงท้ายตลาดฯ จะพลิกกลับเป็นบวก เนื่องจากทางเทคนิคมีสัญญาณซื้อเข้ามา
นายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า หากพิจารณาปัจจัยพื้นฐานภายในบริษัทฯ คงมีมุมมองเชิงบวก เนื่องจากมองว่า ดัชนีหุ้นไทยได้รับแรงสนับสนุนจากการเปิดประมูลโครงการลงทุนภาครัฐอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในช่วงปลายปีคาดว่าภาครัฐจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ อาทิ มาตรการทางภาษีเกี่ยวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศ เงินช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มการปรับเพิ่มประมาณการผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯ ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
สำหรับการปรับตัวลงของดัชนีระดับปัจจุบันนี้ หากพิจารณาในแง่ของมูลค่าหุ้น ถือว่าถูกมาก โดยปีนี้ตลาดคาดการณ์อัตรากำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ระดับ 106 บาท และอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไร (PE) ที่ระดับ 12.68 เท่า บริษัทฯ มองว่า โอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวลงจะจำกัดมากขึ้น โดยมองแนวรับที่ระดับ 1,344 จุด และแนวต้านที่กรอบ 1,420-1,450 จุด ซึ่งระดับดัชนีที่ 1,400 จุด มีค่า PE เฉลี่ยประมาณ 13.20 เท่า
นายมณฑล กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางปัจจัยต่างประเทศยังคงให้น้ำหนักติดตามผลการโต้วาทีระหว่างนางฮิลลารี คลินตัน และนายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะวันที่ 19 ตุลาคม 2559 เนื่องจากเป็นการโต้วาทีครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 เนื่องจากสะท้อนถึงนโยบายที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองระหว่างประเทศ อีกทั้งยังคงมีปัจจัยความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ หลังการบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเรื่องการควบคุมการผลิตของกลุ่มโอเปก และการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ
ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 9,716.32 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 2,497.43 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 573.66 ล้านบาท และนักลงทุนภายในประเทศขายสุทธิ 6,645.23 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย