กทม.24 พ.ย.-กทม.เตรียมตั้งสำนักการจราจร รับถ่ายโอนภารกิจงานจราจร ตามมติคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ)
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) มีมติให้ถ่ายโอนภารกิจด้านการจราจรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ กทม. เทศบาลและเมืองพัทยา ว่า ตนเป็นหนึ่งในคณะกรรมการปฏิรูปดังกล่าว ขณะนี้ยังไม่มีข้อยุติ ว่า กทม.จะรับถ่ายโอนภารกิจด้านการจราจร ทั้งหมด แต่วันที่ 1ก.พ.2561 กทม.จะเสนอรัฐบาล เพื่อเข้าคณะกรรมการชุดใหญ่ โดยเบื้องต้นการถ่ายโอนจะมีระยะเวลา 3 ปี และ 5 ปี โดย 3 ปี อาจเป็นเรื่องเร่งด่วน เช่น การโอนภารกิจด้านงานจราจรให้กับท้องถิ่น ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาจจะเหลืออำนาจป้องกัน ปราบปรามและสืบสวนสอบสวนเท่านั้น
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อไปว่า ในเรื่องการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เช่น ขีด สี ตี เส้น ปรับเปลี่ยนสัญญาณไฟจราจร ป้ายจราจรและการบังคับใช้กฎหมายสำหรับผู้ที่จอดรถในพื้นที่ห้ามจอด การออกใบสั่ง การเปรียบเทียบปรับ สามารถรับโอนภารกิจได้ทันที แต่ในกรณีที่มีคดีอาญาเกิดขึ้นบนผิวจราจร อำนาจการสอบสวน เป็นเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเท่านั้น ซึ่งข้าราชการ กทม.อยู่นอกเหนืออำนาจ แต่หากจำเป็นต้องรับการถ่ายโอนจริงๆ จะต้องมีการแก้ไขข้อกฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิบัติหน้าที่
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อไปอีกว่า กทม.จะต้องได้รับการถ่ายโอนบุคลากรเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรและกองบังคับการตำรวจจราจรมาดูแลโดยอัตราเจ้าหน้าที่ที่จะถ่ายโอนมายังกทม.จะต้องเป็นไปตามความสมัครใจ หากเจ้าหน้าที่จราจรที่ถ่ายโอนมายัง กทม.มีจำนวนไม่เพียงพอ กทม.อาจต้องทำการยืมกำลังเจ้าหน้าที่ เช่นเดียวกับกรณีโอนย้ายตำรวจดับเพลิง เมื่อปี 2537 เมื่อตำรวจโอนมาสังกัด กทม.แล้ว กทม.ต้องได้รับโอนวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร อาคารที่พักในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย
อย่างไรก็ตามเมื่อรับโอนภารกิจด้านการจราจรมาแล้วกทม.จะต้องจัดตั้งหน่วยงานใหม่ โดยจะแยกสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.)ออกเป็น 2 สำนัก เนื่องจากคาดว่าจะมีบุคลากรเพิ่ม 5,000-6,000 คน โดยจะแบ่งเป็นสำนักการจราจร เพื่อรองรับงานจราจร และสำนักการขนส่ง ซึ่งจะดูแลระบบขนส่งมวลชนทั้งหมด .-สำนักข่าวไทย