กรุงเทพฯ 3 พ.ย. – กกพ.ประกาศผลโซลาร์ฟาร์มเฟส 2 เผยมีหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตรผ่านการพิจารณาและมีสิทธิ์เข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 35 ราย กำลังการผลิตรวม 154.52 เมกะวัตต์ คาดมีเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 10,700 ล้านบาท
น.ส.นฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงาน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะรองโฆษก เปิดเผยว่า กกพ.มีมติรับรองและประกาศผลรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาคำร้องและข้อเสนอขอขายไฟฟ้าและมีสิทธิ์เข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายโครงการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) สำหรับหน่วยราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร เฟส 2 แล้ว โดยมีผู้ผ่านการพิจารณา 35 ราย คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 154.52 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นหน่วยงานราชการ 11 ราย กำลังการผลิตรวม 52.52 เมกะวัตต์ และสหกรณ์ภาคการเกษตร 24 ราย กำลัง การผลิตรวม 102 เมกะวัตต์
สำหรับขั้นตอนต่อไปเจ้าของโครงการหรือผู้สนับสนุนโครงการจะเข้าสู่กระบวนการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย คือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ภายใน 120 วันนับจากวันที่ประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการพิจารณา หรือภายในวันที่ 2 มีนาคม 2561 กับภายใต้อายุสัญญา 25 ปี และได้รับอัตรารับซื้อไฟฟ้าที่ 4.12 บาทต่อหน่วย โดยต้องพร้อมจะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ให้ทันภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2561 หากไม่เข้าทำสัญญาภายในระยะเวลาที่กำหนดให้ถือว่าคำร้องและข้อเสนอขอขายไฟฟ้าเป็นอันยกเลิก
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กกพ.จับสลากคัดเลือกผู้ที่ประสงค์จะเป็นเจ้าของโครงการที่ผ่านการตรวจคุณสมบัติไป พร้อมกับประกาศผลจับสลากอย่างเป็นทางการไปแล้ว ซึ่งมีผู้ที่จับสลากและได้รับคัดเลือกในการยื่นคำข้อเสนอขอขายไฟฟ้าในขั้นตอนที่ 2 รวม 38 ราย หรือคิดเป็นปริมาณการเสนอขายไฟฟ้ารวมทุกพื้นที่ 171.52 เมกะวัตต์ ส่วนผู้ไม่ผ่านการพิจารณาคำร้องและข้อเสนอขอขายไฟฟ้า 3 รายนั้น จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ยื่นมาพบว่าเอกสารหลักฐานขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องและไม่ตรงตามคุณสมบัติของหลักเกณฑ์ในประกาศ ซึ่งผู้ไม่ผ่านการพิจารณาสามารถใช้สิทธิ์อุทธรณ์ได้ภายใน 30 วันนับจากวันที่มีประกาศ ทั้งนี้ ในส่วนจำนวนเมกะวัตต์ที่เหลือจากเป้าหมายตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 2/2560 เห็นชอบยุติการรับซื้อไฟฟ้าตามโครงการโซลาร์ฟาร์ม ในเฟส 2 เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว.-สำนักข่าวไทย