กทม. 29 ต.ค.-โฆษก คสช. เผย รัฐบาลและกองทัพบก กำชับผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดูแลให้การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
พันเอกวินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในขณะนี้ว่า ปริมาณน้ำในปีนี้มีค่อนข้างมาก เนื่องจากประเทศไทยได้รับอิทธิพล จากพายุโซนร้อน ตาลัส เซินกา พายุไต้ฝุ่นทกซูรี และพายุดีเปรสชั่น และเมื่อเปรียบเทียบกับ ณ เวลาเดียวกันในปี 2554 มีปริมาณน้ำฝนรวมสะสม ที่ 1,798 มิลลิเมตร ซึ่งในทางสถิตินับว่ามีปริมาณใกล้เคียงกัน ทั้งนี้รัฐบาลได้พยายามบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมตามห้วงเวลาตั้งแต่ในช่วงก่อนน้ำมา และระหว่างน้ำมา เช่น การพัฒนาเพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำ แก้มลิง ตามแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งประเทศ ,การวางแผนเวลาการระบายน้ำฤดูฝน ,การบริหารระดับน้ำในเขื่อนให้มีระดับเหมาะสม, การวางวางแผนใช้พื้นที่ทุ่งรับน้ำ, การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ เช่น การกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำในพื้นที่ต่าง และเตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องจักรกลต่างๆ โดยกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
“ทั้งหมดได้มีการคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชน โดยในส่วนพื้นที่สุดวิสัยที่ได้รับผลกระทบ รัฐบาลมีแผนการดูแลเยียวยาไว้แล้วตามความเหมาะสมและดีที่สุด อีกทั้งในพื้นที่ดังกล่าว นายกรัฐมนตรี สั่งการกำชับผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดูแลช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ” พันเอกวินธัย กล่าว
พันเอกวินธัย กล่าวว่า จากการติดตามการพยากรณ์อากาศ และการแจ้งเตือนจากหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ผ่านมา ในส่วนกองทัพบกนั้น ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ได้ให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือน โดยทุกหน่วยอยู่ในขั้นระหว่างการให้ความช่วยเหลือ ร่วมกับหน่วยงานรัฐในพื้นที่ ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาในทุกระดับ จะได้ติดตามและกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด
พันเอกวินธัย กล่าวว่า สำหรับภาพรวมขณะนี้ทางศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ศบภ.ทบ.)ได้ส่งกำลังพลจำนวน 31 กองร้อย ช่วยเหลือประชาชนเข้าปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ๆ ได้รับผลกระทบทั้ง 22 จังหวัด ในพื้นที่ภาค เหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดย ทาง ศบภ.ทบ. ส่วนกลางได้มีการเตรียมการที่จะสนับสนุนเพิ่มเติม ในเรื่องจำเป็นต่างๆ เอาไว้ ทั้งเรื่องคน และ เครื่องมือต่างๆ ไว้คอยเสริม กรณีจำเป็น หรือเมื่อมีการร้องขอเข้ามา.-สำนักข่าวไทย