โปรตุเกส 19 ต.ค.- รมว.มหาดไทยโปรตุเกสยื่นลาออก เหตุรับมือไฟป่าด้อยประสิทธิภาพ จนมีผู้เสียชีวิตเกิน 100 คนในรอบ 4 เดือน
หลังเกิดไฟป่าครั้งร้ายแรงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในพื้นที่ตอนกลางและทางเหนือของประเทศโปรตุเกส ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 42 คน บาดเจ็บ 71 คน และยังมีเหตุไฟป่าไหม้หลายจุดคล้ายกันนี้ เมื่อเดือนมิถุนายน มีผู้เสียชีวิต 64 คน และบาดเจ็บ 250 คน ใกล้ภูมิภาคเปโดรเกา กรานเด ซึ่งถือเป็นไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ
ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา น.ส.คอนสแตนกา อูร์บาโน เดอ ซูซา รมว.มหาดไทยได้ยื่นขอลาออก และนายกรัฐมนตรีอันโตนีโอ คอสตา ได้ยอมรับการลาออกแล้ว หลังถูกกระแสกดดันและวิพากษ์วิจารณ์การรับมือเหตุไฟป่าด้อยประสิทธิภาพจนเกิดภัยพิบัติซ้ำซาก มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากดังกล่าว ช่วงแรก นายกรัฐมนตรีคอสตาคัดค้าน ไม่อยากให้นางซูซาต้องออกเพราะเรื่องนี้ ก่อนจะมายอมรับภายหลังว่า หน่วยงานรัฐที่ดูแลเรื่องนี้ ทำผิดพลาดหลายประการ และได้กล่าวขอโทษต่อรัฐสภาแล้ว ขณะที่นางซูซา ระบุในจดหมายลาออก ไม่ใช่เพราะเรื่องการเมือง แต่เป็นเหตุผลส่วนตัว เพื่อแสดงความรับผิดชอบในเรื่องนี้
ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการที่ดินคนหนึ่งเผยว่า ไฟป่าทำให้ผู้คนละทิ้งที่ดิน ไม่ทำการเพาะปลูกจนเกิดเป็นพื้นที่โล่งว่างเปล่า เมื่อเกิดภัยแล้งในช่วงนี้จึงยิ่งทำให้สถานการณ์ย่ำแย่มากขึ้นอีก ส่วนนักชีววิทยาคนหนึ่งระบุด้วยว่า พื้นที่ที่มีการปลูกสตรอว์เบอร์รี พบว่าทนทานหรือสกัดไฟป่าลุกลามได้ดีกว่าพื้นที่ที่ปลูกต้นสนและไม้ยูคาลิปตัส พืชเศรษฐกิจที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมกระดาษ แต่ก็ติดไฟได้ง่าย ทำให้ไฟป่าลามขยายวงอย่างรวดเร็ว แนะภาครัฐหาพืชทดแทนมาปลูกในวงกว้างเพื่อแก้ปัญหาไฟป่า.-สำนักข่าวไทย