เอ็นโก้บี 16 ต.ค. – กระทรวงพลังงานพร้อมจัดประชุมรัฐมนตรีพลังงานเอเชีย (AMER) ครั้งที่ 7 วันที่ 1-3 พ.ย. ย้ำเป็นเวทีสำคัญให้ชาติสมาชิก 36 ประเทศผู้ซื้อและผู้ขายพลังงาน และ 20 องค์กรชั้นนำด้านพลังงานระหว่างประเทศ ร่วมแสดงวิสัยทัศน์และแนวทางไปสู่การปฏิบัติต่อสถานการณ์พลังงาน ด้านตลาดน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และก้าวไปสู่ทางเลือกพลังงานทดแทนโดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เปลี่ยนผ่าน
พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 1 -3 พฤศจิกายน นี้ประเทศไทยโดยกระทรวงพลังงาน จะได้เป็นเจ้าภาพในการประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรีพลังงานเอเชีย (ASIAN Ministerial Energy Roundtable : AMER) ครั้งที่ 7 ณ โรงแรมแชงกรีล่า กรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นการประชุมหารือระดับรัฐมนตรีพลังงานของชาติสมาชิกในเอเชียร่วมกับผู้นำองค์กรระหว่างประเทศ ภายใต้แนวคิด Global Energy Markets in Transition : From Vision to Action หรือการเปลี่ยนผ่านตลาดพลังงานโลก จากวิสัยทัศน์สู่การปฏิบัติ โดยชาติในเอเชีย ประกอบด้วย ประเทศผู้ขายน้ำมันในกลุ่มตะวันออกกลางและกลุ่มประเทศผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ รวมทั้งชาติในอาเซียนจะร่วมกันแสดงทัศนะต่อสถานการณ์พลังงาน ประเด็นสำคัญ 3 ด้าน คือ ตลาดน้ำมัน (Oil Market) ตลาดก๊าซธรรมชาติ (Gas Market) และการเปลี่ยนผ่านพลังงานไปสู่ทางเลือกการใช้พลังงานทดแทน โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เปลี่ยนผ่าน (Disruptive Technology)
สำหรับการประชุม AMER ครั้งนี้ จะเป็นเวทีสำคัญให้เกิดการพูดคุยระหว่างชาติสมาชิกในเอเชียได้รับทราบสถานการณ์พลังงานปัจจุบัน ได้แก่ ด้านตลาดน้ำมัน ซึ่งขณะนี้มีปัจจัยที่จะส่งผลกระทบเกิดขึ้นภายในทวีปเอเชียโดยตรง 3 ประเด็น เช่น การรวมตัวกันอย่างแนบแน่นเพิ่มขึ้นของชาติสมาชิกโอเปก รวมทั้งสถานการณ์ที่ไม่สงบในหลายพื้นที่ ที่คาดว่าจะมีผลต่อราคาน้ำมัน ด้านตลาดก๊าซธรรมชาติ จะพูดคุยถึงพัฒนาการและสถานการณ์เชื้อเพลิงก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือ LNG ซึ่งปัจจุบันตลาดการซื้อขายของ LNG จะมีลักษณะคล้ายกับตลาดน้ำมันเพิ่มขึ้น และจะเริ่มพัฒนาไปสู่ตลาดกลางการซื้อขาย LNG นำไปสู่เกิดดัชนีราคากลาง เช่นเดียวกับตลาดน้ำมัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาติในเอเชียทั้งกลุ่มส่งออกในชาติตะวันออกกลาง และกลุ่มผู้ซื้อ เช่น ประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และชาติในอาเซียน จำเป็นต้องหารือร่วมกันถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง เพื่อนำไปสู่การสร้างความสมดุลและเสถียรภาพของตลาด LNG ดังกล่าว
ส่วนประเด็นสุดท้าย ด้านการเปลี่ยนรูปแบบการใช้พลังงานสู่ทางเลือกพลังงานทดแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีเปลี่ยนผ่าน ซึ่งสถานการณ์พลังงานขณะนี้จะเปลี่ยนผ่านจากพลังงานฟอสซิลไปสู่การใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ซึ่งภายในการประชุม AMER ครั้งนี้จะมีการพูดคุยเรื่องหลัก ๆ ได้แก่ การใช้พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) การขับเคลื่อนเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) และการพัฒนาระบบการจัดเก็บพลังงาน (Energy Storage System) ซึ่งคาดว่าจะเป็นประเด็นที่ประเทศไทยจะได้ประโยชน์ เนื่องจากปัจจุบันกระทรวงพลังงานผลักดันนโยบายเรื่องดังกล่าวต่อเนื่องและไทยยังถือว่าเป็นประเทศ 1 ในไม่กี่ประเทศของเอเชียที่ได้มีนโยบายพัฒนาที่ชัดเจน
“การที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ นอกจากจะเป็นเวทีความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและแนวโน้มของสถานการณ์พลังงานในภูมิภาคเอเชียแล้ว ยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ด้านกิจการพลังงานของไทยให้ปรากฏต่อสายตาชาวต่างประเทศอีกด้วย กระทรวงพลังงานจึงขอเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการประชุม AMER ครั้งที่ 7 พร้อมกับร่วมภูมิใจไปกับการได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพและทำงานร่วมกับองค์การพลังงานสากล หรือ International Energy Forum (IEF) ที่ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของไทยในฐานะผู้นำในอาเซียน ด้านพลังงานทดแทน และการอนุรักษ์พลังงาน รวมทั้งที่ผ่านมาประเทศไทยมียุทธศาสตร์ และเป้าหมายด้านการวางแผนพลังงานที่ชัดเจน เช่น แผนบูรณาการพลังงานระยะยาว (Thailand Integrated Energy Blueprint : TIEB) และนโยบาย Energy 4.0” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าว .-สำนักข่าวไทย