กรุงเทพฯ 4 ต.ค.- กระทรวงพลังงาน kick off รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า (eTukTuk) สนับสนุนเปลี่ยนรถเป็นไฟฟ้าฟรี 10 คัน ถึง 10 ต.ค. ปีหน้าหนุนต่ออีกร้อยละ 85 ของราคาอีก 90 คัน และทยอยเปลี่ยนให้ครบ 22,000 คันทั่วประเทศภายใน 5 ปี หวังสร้างชื่อไทยเป็นฐานผู้ผลิต eTukTuk ส่งออก
พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงฯ มีมาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มทางเลือกการใช้พลังงาน ลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิงและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าให้เกิดการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า1.2 ล้านคันในปี 2579 เบื้องต้นมุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมรองรับ ทั้งด้านกฎหมาย การสนับสนุนการวิจัยเรื่องแบตเตอรี่ การเตรียมความพร้อมด้านสถานี Charging Station 150แห่ง ภายในปี 2560-2561 และสนับสนุนการนำร่องยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มรถสาธารณะ รถขนส่งมวลชนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และ eTukTuk โดยในส่วนของรถตุ๊กตุ๊กจะนำร่องเปลี่ยนรถตุ๊กตุ๊กจากน้ำมันและก๊าซแอลพีจีเป็น ไฟฟ้า 100 คันใช้งบกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์ พลังงานรวม 76 ล้านบาท แบ่งออกเป็นระยะสาธิตเทคโนโลยี เปลี่ยนให้ฟรี 10 คัน แต่ไม่เกินราคา 350,000 บาทต่อคัน เปิดรับสมัครถึงวันที่ 10 ตุลาคมนี้ และระยะที่ 2 ให้การสนับสนุนร้อยละ 85 ของวงเงินจำนวน 90 คัน เปิดรับสมัคร 10 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2560
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การเปลี่ยนรถตุ๊กตุ๊กเก่าเป็นรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าครบ 100 คัน จะเกิดผลประหยัดพลังงานรวม 0.1 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ (ktoe) และเมื่อรวมจนถึงสิ้นแผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP 2015) ในปี 2579 จะประหยัดพลังงานได้ถึง 1.75 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ (ktoe) และตามแผนส่งเสริมภายใน 5 ปี ให้เปลี่ยนเป็นรถตุ๊กตุ๊กเก่าเป็นไฟฟ้าทั้งหมด 22,000 คัน จะช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 20 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ (ktoe)/ปี และที่สำคัญยังช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และช่วยผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่องในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศอีกด้วย โดยรถไฟฟ้ามีความสิ้นเปลือง 0.4-0.8 บาท/กม. จากรถที่ใช้ก๊าซ-น้ำมันมีค่าใช้จ่าย 1.0-1.12 บาท/กม. ส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมีระดับเพียง 0.06-0.11กก. คาร์บอนไดออกไซด์ /กม. ส่วนรถใช้แอลพีจี/น้ำมัน ปล่อยที่ 0.178 กก.คาร์บอนไดออกไซด์/กม.
“รถตุ๊กตุ๊กถือเป็นเอกลักษ์ของไทย หากมีการส่งเสริมให้เป็นรถไฟฟ้าจะช่วยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ จูงใจให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอี มีการผลิตเพื่อใช้ในประเทศและส่งออก โดยที่ผ่านมาส่งออกไปยุโรป หลายประเทศแล้ว ที่สำคัญช่วยลดมลพิษ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าแบตเตอรี่ขณะนี้มีราคาแพงและต้องเปลี่ยนทุก 5 ปี ผู้ใช้ eTukTuk ต้องเก็บเงินไว้เพื่อเปลี่ยนแบต ซึ่งคาดว่า 5 ปีข้างหน้าราคาจะลดลงจากขณะนี้กว่า 1 แสนบาท” นายทวารัฐ กล่าว
นายธเนศ พุ่มโพธิ์ ที่ปรึกษา คลีนฟูเอลเอ็นเนอร์ยี เอ็นเตอร์ไพร้ส จำกัด ผู้ผลิตไฟฟ้าตุ๊ก ตุ๊กไฟฟ้า สัญชาติไทย กล่าวว่า บริษัทผลิตมานับพันคันกว่า 10 ปีแล้วมีการส่งออกไปยุโรป เช่น ฝรั่งเศส เป็นต้น โดยปัจจุบันใช้แบตเตอรี่ชนิดน้ำและกำลังพัฒนาแบตเตอรี่ประเภทใหม่ อลูมิเนียมนิกเกิล ไอออน ซึ่งมีราคาถูก ขนาดเบา และชาร์จเร็วกว่าประเภทลิเธียม ส่วนโครงการของรัฐที่สนับสนุนทางบริษัทร่วมกับผู้ผลิตแบตเตอรี่ร่วมโครงการเปลี่ยนรถตุ๊กตุ๊กสาธารณะเป็นรถไฟฟ้า โดยใช้แบตเตอรี่ชนิดน้ำ แต่ใช้วิธีการเปลี่ยนแบตฯ โดยยกออกเปลี่ยนตามพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อความสะดวกแก่ผู้ใช้
โดยผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่โครงการสนับสนุนการเปลี่ยนรถตุ๊กตุ๊กเป็นรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า (eTukTuk) กลุ่มวิจัยเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน EnConLab มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โทรศัพท์. 0 2470 9604-8 ต่อ 1408 หรือ ดาวน์โหลดเอกสารได้จากเว็บไซต์ http://www.enconlab.com/etuktuk.-สำนักข่าวไทย