บุรีรัมย์ 12 ต.ค.-สามีภรรยาเข้าแจ้งความขอส่งศพลูกสาววัย 3 ขวบตรวจชันสูตร รพ.ตำรวจ หลังติดใจสาเหตุการตายเชื่อผลจากการรักษาผิดพลาด
สองสามีภรรยาชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความขอส่งศพลูกสาววัย 3 ขวบเศษ ตรวจชันสูตรที่โรงพยาาลตำรวจ เพราะติดใจสาเหตุการเสียชีวิต หลังส่งเข้ารักษาโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ด้วยอาการไข้สูง พยาบาลฉีดยาให้เกิดผื่นขึ้นตัวสั่นชักเกร็งเพียง 2 วันเสียชีวิต เชื่อผลจากการฉีดยา เรียกร้องทางโรงพยาบาลรับผิดชอบ
นายสำลี อายุ 43 ปี อาชีพขับแท็กซี่ที่ จ.ปทุมธานี และ น.ส.รุ่งนภา อายุ 22 ปี ทำงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่ง เป็นสองสามีภรรยาชาวบ้านหนองน้ำใส ต.หนองบอน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ พร้อมญาติและทนายความเข้าแจ้งความที่ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เพื่อติดต่อประสานงานขอส่งศพน้องไข่มุก วัย 3 ขวบ 10 เดือนที่ญาติติดใจสาเหตุการเสียชีวิตเพราะเชื่อเกิดจากการรักษาผิดพลาดของทางโรงพยาบาล เพื่อส่งตรวจชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยผู้เป็นแม่ เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค.60 เวลาประมาณ 07.00 น. ได้พาน้องไข่มุก ลูกสาวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ด้วยอาการตัวร้อนไข้สูง ซึ่งแม่ก็ได้เช็ดตัวให้ลูกตลอดเวลา พอถึงโรงพยาบาล ทางพยาบาลได้ให้น้ำเกลือและให้ยารับประทาน แต่ไม่มีแพทย์มาตรวจ กระทั่งช่วงเย็นน้องเริ่มมีอาการไข้ขึ้น พยาบาลได้ฉีดยาเข้าที่แขนด้านขวาลูกสาวอีก แต่ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที ก็มีผื่นเป็นจ้ำๆ ขึ้นที่แขน และมีอาการตัวสั่น เกร็ง แน่นหน้าอก ทางโรงพยาบาลจึงทำเรื่องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ซึ่งขณะนั้นน้องยังสามารถพูดคุยสื่อสารได้ แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลได้ทำการรักษาอยู่ 2 วัน กระทั่งถึงวันที่ 7 ก.ค. เวลาประมาณ 14.35 น. ลูกสาวก็เสียชีวิต โดยทางโรงพยาบาลแจ้งเพียงว่า เกิดจากก้านสมองตายเฉียบพลัน ตนและสามีรู้สึกตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าลูกสาวจะเสียชีวิตเร็วขนาด ซึ่งที่ผ่านมาลูกสาวมีร่างกายแข็งแรงไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเลย แต่พอมีไข้ตัวร้อนเข้ารักษาเพียง 2 คืน 3 วัน กลับเสียชีวิตจึงติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว เชื่อว่าเกิดจากการรักษาผิดพลาดของทางโรงพยาบาล หรือผลพวงมาจากการฉีดยา จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ทางโรงพยาบาลออกมาแสดงความรับผิดชอบ
น.ส.รุ่งนภา ยังบอกอีกว่า ตั้งแต่ลูกสาวสูญเสียลูกสาวมากว่า 3 เดือนก็ยังทำใจไม่ได้ เพราะมีลูกสาวคนเดียว ซึ่งที่ผ่านมาก็ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาวมาตลอด แต่ไม่รู้ว่าจะเดินเรื่องยังไง และไม่รู้ว่าหากเดินเรื่องเรียกร้องความเป็นธรรม จะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากน้อยขนาดไหนเพราะสามีก็มีรายได้จากการขับแท็กซี่ ส่วนตัวเองก็เป็นลูกจ้าง ที่ผ่านมาพยายามติดตามทางโรงพยาบาลเพื่ออยากทราบสาเหตุที่แท้จริง แต่ทางโรงพยาบาลก็หลบเลี่ยงบ่ายเบี่ยงอ้างว่าหมอที่รักษาไม่อยู่บ้าง ไม่สะดวกบ้าง กระทั่งต่อมาวันที่ 26 ก.ย.จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.ปทุมธานี เพื่อขอส่งศพตรวจพิสูจน์สาเหตุการตายให้ชัดเจน และส่วนศพลูกสาวก็ได้นำมาประกอบพิธีสวดอภิธรรมที่วัดบ้านหนองน้ำขุ่น จ.บุรีรัมย์บ้านเกิด ซึ่งขณะนี้ก็ได้ไม่เผาหรือฝัง เพียงบรรจุใส่โลงเก็บไว้ในสุสานภายในวัดเท่านั้น รอจนกว่าจะทราบผลชันสูตร.-สำนักข่าวไทย