“ภูมิธรรม” ระบุให้เป็นกระบวนการทางสภาฯ ถกร่าง กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

5 เม.ย. – “ภูมิธรรม” ระบุให้เป็นกระบวนการทางสภาฯ ถกร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ชี้ยืนประท้วงอยู่หน้าสภาฯ อ้างเป็นเสียงประชาชนทั้งหมดไม่ได้ มองสร้างรายได้เข้าระบบ รับมือสหรัฐ ขึ้นกำแพงภาษี


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีสภาผู้แทนราษฎรเตรียมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในวันที่ 9 เมษายนนี้ ซึ่งเรื่องนี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในและนอกสภาฯ จะทำให้ร่างกฎหมายดังกล่าวพับลงไปหรือไม่ว่า รัฐบาลทำหน้าที่ก็พยายามดูเงื่อนไขต่างๆ หากพรรคฝ่ายค้านมีความเห็นก็ควรจะสู้กันในสภาฯ ในการเสนอความเห็นที่แตกต่างกัน เพื่อให้สภาฯ พิจารณา เพราะเมื่อเรายอมรับในระบอบประชาธิปไตย และยอมรับว่ากระบวนการรัฐสภาฯ คือจุดสำคัญในการแก้ไขปัญหา ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภา ไม่ใช่ว่า ความเห็นในสภาฯ ไม่ตรงกับฉัน ฉันไม่เอา ฉันก็ไปเดินนอกสภาฯ อย่างเดียว แต่กระบวนการที่มาจากนอกสภาฯ ตนเองไม่ว่าและไม่มีปัญหาอะไร ถือเป็นสิทธิของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย เพียงแต่อย่ามองแค่ว่าการมายืนอยู่หน้าสภาฯ แล้วเหมารวมว่านี่คือเสียงของประชาชน เพราะเสียงของประชาชนที่แท้จริงคือทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นอยากให้มีกระบวนการที่ชัดเจนว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นอย่างไร เพราะเท่าที่ไปดูประชาชนในต่างจังหวัด ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้คิดอย่างที่ฝ่ายค้านคิด ดังนั้น เสียงของประชาชนดีที่สุด

ส่วนกระบวนการในรัฐสภา ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลก็ดำเนินการกันไป เรื่องนี้เปิดกว้างอยู่แล้ว ซึ่งให้ใช้กระบวนการของรัฐสภาในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และอะไรที่เป็นประโยชน์กับประเทศก็ยึดตรงนั้นเป็นหลัก และอะไรที่จะทำให้รัดกุมขึ้นก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ


นายภูมิธรรม ย้ำว่า การเดินหน้าร่างกฎหมายดังกล่าวถือเป็นการหามาตรการปกป้องให้ดี ไม่ใช่มาคัดค้านหัวชนฝา เพราะจริงๆ แล้วไม่ใช่การยุยงให้คนเข้ามาใช้ หรือติดการพนัน เพราะไม่ใช่ใครก็เข้ากาสิโนได้ เด็กที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์ก็ไม่สามารถเข้าได้ หรือรายได้น้อยกว่าเกณฑ์ก็เข้าไม่ได้ ซึ่งทุกอย่างไม่ได้มีขาว ไม่ได้มีดำเพียงอย่างเดียว ต้องใช้มาตรการแก้ไขปัญหาดีกว่ามาคัดค้านโดยที่ไม่รู้อะไร และโลกวันนี้สิ่งสำคัญ สหรัฐอเมริกา มีมาตรการด้านภาษี ถือเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก เพราะจากกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงกับประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก อย่างประเทศสิงคโปร์ ที่นายกรัฐมนตรีได้ออกมาแจ้งเตือนประชาชน เตรียมตัวรับมือกับผลกระทบ ซึ่งขนาดสิงคโปร์โดนเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพียง 10% แต่ประเทศไทยโดนถึง 36% ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เพิ่มรายได้ สร้างเม็ดเงินให้มากขึ้นในระบบ ขออย่าดราม่ามาก ดูให้มีเหตุมีผล ปัญหาอยู่ตรงไหนก็พยายามจะแก้ตรงนั้น.-315-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ