“ภูมิธรรม” ย้ำกองทัพพร้อมนำคนไทยในเมียนมากลับบ้าน

บน.6 30 มี.ค.- “ภูมิธรรม” เผยส่งเครื่องตรวจจับสัญญาณชีพค้นหาผู้ประสบภัยตึกถล่มแล้ว พร้อมส่งวิศวกรอาสา 2,000 คน ตรวจสภาพตึก เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชน ย้ำกองทัพพร้อมลำเลียงคนไทยในเมียนมากลับบ้าน


นายภูมิธรรม  เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ให้สัมภาษณ์ถึงภารกิจ ส่งกำลังพลไปให้ความช่วยเหลือ หลังแผ่นดินไหวที่เมียนมา ว่าเพื่อมนุษยชาติและมนุษยธรรมในการช่วยดูแลเพื่อนบ้าน ดังนั้นครั้งนี้ดูแลทั้งภายในประเทศและนอกประเทศ โดยสถานการณ์ในเมียนมาถือว่าตอนนี้ยังสับสน เนื่องจากเมียนมาสถานการณ์รุนแรง กว่าประเทศไทยมาก  โดยในพื้นที่เมืองมัณฑะเลย์​ เนปิดอว์ และกรุงย่างกุ้ง ซึ่งกำลังรวบรวมข้อมูล และหากชุดนี้ไปปฏิบัติงานก็จะมีการประสานกับทางสถานทูตไทยในเมียนมา โดยจะรายงานกลับมาให้ทางไทยทราบต่อไปเป็นระยะ ทั้งนี้ยังไม่ได้รับรายงานคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เมียนมา

ส่วนสถานการณ์การช่วยเหลือตึกสำนักงาน สตง.ถล่ม นั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่าเมื่อวานนี้ได้รับรายงาน และนายกรัฐมนตรีได้ติดตามและมอบภารกิจทั้งหมดแล้ว ซึ่งได้ดำเนินการแล้วคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดมาก แต่สิ่งที่สำคัญคืออยากให้ประชาชนมั่นใจ เวลานี้จากการตรวจสอบแล้วคิดว่าปลอดภัย ยกเว้นบางสถานที่และบางจุด ได้มีการกำชับเป็นสัดส่วนไปเช่นคอนโดบางแห่งมีรอยร้าว และตรวจพบว่ายังไม่มั่นคงก็จะไม่ให้เข้าพื้นที่ ส่วนเรื่องขนส่งมวลชนสาธารณะได้มีการตรวจสอบแล้ว แต่รถไฟฟ้าอีก 2 สายอยู่ระหว่างการตรวจสอบ คาดวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็จะครบถ้วน เปิดให้บริการได้ แต่อย่างอื่นไม่มีปัญหาอะไรแล้ว


ขณะที่พื้นที่สีลมที่มีทั้งโรงพยาบาลจุฬาฯ และตึกสูงสำนักงานต่างๆ รวมถึงโรงแรม ตึกสูงที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างก็ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ แต่ได้มีการสั่งการให้นำเครนก่อสร้างลงมาก่อน คิดว่าจะแก้ปัญหาต่างๆได้  

นาย​ภูมิธรรม​ กล่าวว่า​ วันนี้ได้มีการส่งวิศวกรอาสาประมาณ 2,000 คน จะเข้าไปตรวจสอบในแต่ละพื้นที่อีกครั้ง ดังนั้นในประเทศภารกิจหลักอยู่ที่การช่วยเหลือชีวิตผู้ที่อยู่ในพื้นที่ตึกถล่ม เพราะตามปกติจะสามารถดำเนินชีวิตได้ 72 ชั่วโมง ดังนั้นจึงต้องเร่งมือ เมื่อคืนนี้ได้ส่งหน่วยตรวจสัญญาณชีพโดยใช้เครื่องมือที่ทะลุปูน เข้าพื้นที่แล้ว ซึ่งจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่ จากนั้นจะมีการยกแผ่นปูนขนาดใหญ่เพื่อทำให้อุโมงค์โล่ง แล้วสามารถมีอากาศหายใจเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้เร็วที่สุด ย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญส่วนเรื่องอื่นๆไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ทุกอย่างมีการสนับสนุนอย่างเต็มที่ กองทัพมีทุกส่วนที่คอยสนับสนุน และมีการเปลี่ยนผลัดกำลังพลเข้าไปรวมถึงเตรียมกำลังพลเสริม นอกจากนี้ทั่วประเทศได้สั่งการให้กองทัพในทุกจุดพร้อมสนับสนุนในทุกพื้นที่และดูแลได้ทันที

ส่วนนานาชาตินอกเหนือจากอิสราเอลที่ให้ความช่วยเหลือไทย ยังมีประเทศอื่นอีกหรือไม่ที่จะเข้าช่วยเหลือ นายภูมิธรรมกล่าวว่าในเบื้องต้นได้มีการประสานงานขั้นต้น แต่ตอนนี้ทางการไทยดำเนินการอย่างเต็มที่ แต่ส่วนหนึ่งก็ได้แบ่งไปที่เมียนมา เนื่องจากประสบภัยอย่างหนัก พร้อมย้ำว่ามีเที่ยวบินในการรองรับคนไทยจากเมียนมาที่จะเดินทางกลับตลอดเวลา หากคนไทยต้องการเดินทางกลับและพร้อม ซึ่งจะมีการลำเลียงกลับมายังไทยเพราะทางไทยได้ลำเลียงยุทโธปกรณ์ เครื่องช่วยเหลือต่างๆ กำลังพลไปเพิ่มเติมได้ ถ้ามีการร้องขอ ซึ่งภารกิจครั้งนี้ได้สั่งกำชับเป็นพิเศษแล้วว่าจะต้องช่วยเหลือคนไทยให้กลับประเทศได้ เป็นภารกิจหลักและกำชับกำลังพลไปแล้ว.-319​ -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

พ่อขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิตจากตึก สตง.ถล่ม

พ่อของหนุ่มขอนแก่น วัย 35 ปี หนึ่งในผู้สูญหายจากอาคาร สตง.ถล่ม ขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิต ส่วนหนุ่มช่างประปา วัย 32 ปี เหยื่อตึก สตง.ถล่ม เผาแล้ว แม่ยังทำใจไม่ได้ สะอื้นไห้หน้าเมรุ

“ชัชชาติ” เผยเตรียมกู้ 5 ร่างที่พบ-ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเตรียมกู้ 5 ร่าง จาก 14 ร่างที่พบ ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน ยันไม่ขีดเส้นตายหยุดช่วยเหลือ ปรับแผนเพิ่มการรื้อถอนด้วยเครื่องจักรหนักควบคู่ไปมากขึ้น