TNA News-Now-Next: ทำไมแผ่นดินไหวเมียนมามีผู้เสียชีวิตมาก

เนปยีดอ 2 เม.ย. – จากการประเมินอัตโนมัติของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐ หรือ ยูเอสจีเอส (USGS) ระบุว่า แผ่นดินไหวระดับตื้นขนาด 7.7 ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองสะกาย ในภาคกลางของเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ทำให้เกิดการเตือนภัยระดับสีแดง จากจำนวนผู้เสียชีวิตและความเสียหายทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเกิดจากเหตุแผ่นดินไหว ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดพุ่งเข้าใกล้ 3,000 รายแล้ว แต่เชื่อว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจะเพิ่มสูงกว่านี้อีกมาก


การวิเคราะห์ของยูเอสจีเอสระบุว่า มีโอกาสร้อยละ 35 ที่จำนวนผู้เสียชีวิตอาจอยู่ในช่วง 10,000-100,000 คน ขณะที่พบความเสียหายเป็นวงกว้าง เนื่องจากศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองในภาคกลางของเมียนมา ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 1.7 ล้านคน นั่นแปลว่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจ อาจสูงถึงหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเกินกว่าขนาดผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี ของเมียนมา

ขณะที่โครงสร้างพื้นฐานที่อ่อนแอ ทำให้ความพยายามในการกู้ภัยและบรรเทาทุกข์ในเมียนมา ประเทศที่อยู่อย่างโดดเดี่ยว จากการเป็นรัฐบาลทหาร เป็นไปอย่างยากลำบาก ขณะที่ระบบกู้ภัยและการรักษาพยาบาล ก็ได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองที่เกิดจากการรัฐประหารในปี 2021 มานานกว่า 4 ปีแล้ว


รอยเลื่อนที่อันตราย
บิล แม็กไกว ศาสตราจารย์กิตติคุณด้านธรณีฟิสิกส์และภัยพิบัติด้านสภาพอากาศจากยูนิเวอร์ซิตี คอลเลจ ลอนดอน (University College London) หรือ ยูซีแอล (UCL) กล่าวว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้อาจเป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดของเมียนมาในรอบเกือบศตวรรษ และเกิดอาฟเตอร์ช็อก หรือ แรงสั้นสะเทือนหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.7 ขึ้น ไม่กี่นาทีหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งแรก และเตือนว่า “อาจเกิดแผ่นดินไหวมากกว่านี้”

ขณะที่ รีเบคกา เบลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาจากอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน (Imperial College London) หรือ ไอซีแอล (ICL) ระบุว่า นี่คือรอยเลื่อนแบบ ’ชนข้าง’ ของรอยเลื่อนสะกาย เป็นจุดที่แผ่นเปลือกโลกอินเดียทางทิศตะวันตกมาบรรจบกับแผ่นซุนดา พื้นที่ส่วนใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นรอยเลื่อนที่มีขนาดและการเคลื่อนที่คล้ายคลึงกับรอยเลื่อนซานแอนเดรียส ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ

รอยเลื่อนสะกายมีความยาวมากถึง 1,200 กิโลเมตร และตรงมาก จึงอาจทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้เป็นบริเวณกว้าง ยิ่งรอยเลื่อนเคลื่อนตัวมากเท่าใด แผ่นดินไหวก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นรอบนี้ จึงสร้างความเสียหายได้มากเป็นพิเศษ เนื่องจากแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในระดับที่ตื้น พลังงานแผ่นดินไหวจึงลดลงเพียงเล็กน้อย ก่อนไปถึงพื้นที่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่ด้านบน เกิดเป็นแรงสั่นสะเทือนที่พื้นผิวมาก


ตึกสูงในมัณฑะเลย์เพิ่มขึ้น ทำให้มีตึกถล่มมาก
เอียน วาคินสัน จากภาควิชาธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยรอยัล ฮอลโลเวย์ (Royal Holloway) แห่งลอนดอน กล่าวว่า สิ่งที่เปลี่ยนไปในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาคือ อาคารสูงที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กที่เพิ่มขึ้น ทำให้เสี่ยงที่จะพังถล่มจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นเดินไหว ขณะที่เมียนมาได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งมาหลายปี และการบังคับใช้เรื่องกฎการออกแบบและการก่อสร้างอาคารก็ไม่เข้มงวดนัก

เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.0 ขึ้นไป ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในบริเวณรอยเลื่อนสะกาย เป็นช่วงที่เมียนมายังไม่มีการพัฒนามากนัก บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่เป็นอาคารโครงไม้เตี้ย ๆ และศาสนสถานที่สร้างด้วยอิฐ เมื่อเกิดแผ่นดินไหวจึงไม่สร้างความเสียหายร้ายแรงมาก

แผ่นดินไหวในครั้งนี้ถือเป็นการทดสอบโครงสร้างพื้นฐานของเมียนมายุคใหม่ครั้งแรก เมื่อเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ที่มีจุดศูนย์กลางไม่ลึก และเกิดใกล้กับเมืองใหญ่ที่มีตึกสูงสร้างใหม่จำนวนมาก รัฐบาลเมียนมาต้องตระหนักว่า พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบในการกำหนดกฎเกณฑ์การวางแผนและกฎหมายการก่อสร้าง แต่ภัยพิบัติครั้งนี้ เผยให้เห็นสิ่งที่รัฐบาลเมียนมาล้มเหลวในการดำเนินการตั้งแต่ก่อนเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งหากทำได้ก็จะสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้มากกว่านี้

กรุงเทพฯ อยู่ไกล ทำไมตึกถล่ม
คริสเตียน มาลากา-ชูกีไตป์ จากแผนกวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อมของไอซีแอล (ICL) กล่าวว่า พื้นดินในกรุงเทพมหานคร มีส่วนทำให้เกิดความเสียหายที่รุนแรง แม้ว่าจะอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวในเมียนมาถึง 1,000 กิโลเมตรก็ตาม แม้ว่ากรุงเทพฯ จะอยู่ห่างจากรอยเลื่อนที่ยังเคลื่อนตัวอยู่มาก แต่ดินที่อ่อนตัวของกรุงเทพฯ ก็ทำให้แรงสั่นสะเทือนรุนแรงขึ้น สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่ออาคารสูงโดยเฉพาะเมื่อเกิดแผ่นดินไหวในระยะไกล ขณะเดียวกัน เทคนิคการก่อสร้างในกรุงเทพฯ ที่เน้นใช้ ‘แผ่นพื้นเรียบ’ ซึ่งพื้นจะยึดด้วยเสาเท่านั้น ไม่ใช้คานเสริม เช่น โต๊ะที่มีขารองเท่านั้น ถือเป็นการออกแบบที่มีปัญหา จากการวิเคราะห์วิดีโอเบื้องต้นของอาคารที่ถล่มในกรุงเทพฯ ชี้ให้เห็นว่ามีการใช้เทคนิคการก่อสร้างประเภทนี้

โรแบร์โต เจนติล ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบบจำลองความเสี่ยงจากภัยพิบัติจากยูซีแอล (UCL) กล่าวว่า การที่อาคารสูงในกรุงเทพฯ พังทลายลงมาอย่างรุนแรง หมายความว่า อาคารสูงอื่นๆ ในตัวเมืองอาจต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียดถี่ถ้วนเช่นกัน

แผ่นดินไหวเกิดขึ้นทุกวัน วันละหลายครั้ง
กรมอุตุนิยมวิทยาของไทย รายงานว่าเกิดสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว หรืออาฟเตอร์ช็อค แทบจะเป็นรายชั่วโมงหลังจากแผ่นดินไหวใหญ่ขนาด 7.7 ส่วนใหญ่เป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็ก ความรุนแรงไม่เกิน 6.0 รวมถึงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (31 มี.ค.) ที่เกิดแรงสั่นสะเทือนผลพวงจากแผ่นดินไหวในเมียนมา จนผู้คนตามอาคารสูงในกรุงเทพฯ จำนวนมากพากันแตกตื่นวิ่งหนีตายลงจากอาคาร

หลายคนอาจจะรู้สึกว่า ทำไมแผ่นดินไหวเกิดบ่อยเหลือเกิน แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การเกิดขึ้นของแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว หรืออาฟเตอร์ช็อค ในหลายพื้นที่ พบได้เป็นประจำทุกวัน มาจำเป็นต้องตื่นตระหนกหรือตกใจมากไป

หากดูข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐ ซึ่งเกาะติดและรายงานเหตุแผ่นดินไหวทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ก็จะพบว่าเมื่อวันที่ 31 มีนาคม เกิดแผ่นดินไหวมากถึง 48 ครั้งในช่วง 1 วันที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ความรุนแรงไม่เกิน 6.0 จะมีเพียงแผ่นดินไหวที่ตองกา ขนาด 7.0 เท่านั้นที่มีความรุนแรงมาก และอาฟเตอร์ช็อคขนาด 6.2 ที่เกิดตามมา

ศูนย์ข้อมูลแผ่นดินไหวแห่งชาติ หรือ เอ็นอีไอซี (NEIC) ระบุ จุดเกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกประมาณ 20,000 ครั้งต่อปี เฉลี่ยประมาณวันละ 55 ครั้ง แม้จะพบการเกิดแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ก็ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีอุปกรณ์ตรวจจับแผ่นดินไหวที่แม่นยำมากขึ้น อีกทั้งเทคโนโลยีที่ทำให้เราทุกคนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มากขึ้น และกว้างไกลขึ้น ทำให้เรารู้สึกว่า เกิดเหตุภัยพิบัติบ่อยครั้งขึ้น

นอกจากแผ่นดินไหวทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นเป็นปกติแล้ว อีโคโนมิก ไทมส์ (Economic Times) รายงานว่า ยังมีแผ่นดินไหวที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การทำเหมือง การสร้างเขื่อน การขุดเจาะใช้น้ำใต้ดิน รวมถึงการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ สิ่งเหล่านี้ก็อาจไปกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวได้เช่นกัน ดังนั้น ความถี่ในการเกิดแผ่นดินไหว ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกังวล

ตามรายงานของ ยูเอสจีเอส (USGS) แผ่นดินไหวเกิดถี่ขึ้น หรือลดลงชั่วคราว ถือเป็นส่วนหนึ่งของความผันผวนตามปกติของอัตราการเกิดแผ่นดินไหว การที่แผ่นดินไหวเกิดทั่วโลกไม่ได้บ่งชี้ว่าแผ่นดินไหวขนาดใหญ่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ยูเอสจีเอส (USGS) ระบุว่า ตรวจพบการเกิดแผ่นดินไหวมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะแผ่นดินไหวเกิดขึ้นมากขึ้นจริง ๆ แต่เพราะมีเครื่องมือตรวจวัดแผ่นดินไหวมากขึ้น และสามารถบันทึกแผ่นดินไหวได้มากขึ้น

ข้อมูลจาก ยูเอสจีเอส (USGS) ที่เก็บข้อมูลมาเกือบ 100 ปี ระบุว่า มีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ขนาด 7.0 ขึ้นไป เกิดขึ้นทั่วโลกเฉลี่ยปีละประมาณ 16 ครั้ง ค่าเฉลี่ยนี้ประกอบด้วยแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ประมาณ 15 ครั้ง และแผ่นดินไหวขนาด 8.0 ขึ้นไป 1 ครั้ง โดยแผ่นดินไหวที่เมียนมารุนแรงถึงขนาด 7.7 ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

โลกร้อนทำแผ่นดินไหวเกิดถี่ขึ้นหรือไม่
การวิจัยพบว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ พอจะมีอิทธิพลต่อความถี่ในการเกิดแผ่นดินไหวในบางภูมิภาค ผลการศึกษาล่าสุดโดยนักธรณีวิทยา จากมหาวิทยาลัยโคโลราโดในสหรัฐฯ ที่ได้ศึกษาเทือกเขา ซังเกร เดอ คริสโต (Sangre de Cristo) ทางตอนใต้ของรัฐโคโลราโด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีรอยเลื่อนที่ยังไม่สงบ พบหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างขนาดของธารน้ำแข็งที่เล็กลง และการเคลื่อนไหวของรอยเลื่อนที่เพิ่มขึ้น

ผลการศึกษาชี้ว่า ในช่วงปลายยุคน้ำแข็ง น้ำหนักของธารน้ำแข็งที่เพิ่มขึ้นไปกดการเคลื่อนไหวบริเวณรอยเลื่อน แต่เมื่อธารน้ำแข็งเหล่านั้นละลายและหดเล็กลง น้ำหนักของธารน้ำแข็งที่เคยหนักและกดรอยเลื่อนเอาไว้ก็ค่อย ๆ คลายลง ทำให้รอยเลื่อนมีการเคลื่อนไหวมากขึ้น และมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวมากขึ้น

นั่นหมายความว่า หากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศมีความรุนแรงขึ้น ทำให้ธารน้ำแข็งละลายมากขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอะแลสกา เทือกเขาหิมาลัย และเทือกเขาแอลป์ รวมถึงพื้นที่ที่ติดกับแผ่นธารน้ำแข็งเหล่านี้ ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดแผ่นดินไหวมากขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วบริเวณรอยแตกของโลก.-815 – สำนักข่าวไทย

อ้างอิง
https://www.yahoo.com/news/scientists-explain-why-myanmar-quake-073634147.html
https://economictimes.indiatimes.com/news/international/global-trends/myanmar-thailand-earthquake-are-quakes-becoming-too-frequent/articleshow/119699880.cms?from=mdr

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้ว! เพลิงไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร

สมุทรสาคร 7 ก.ค. – คุมได้แล้ว! ไฟไหม้โรงงานผลิตยาง จ.สมุทรสาคร พบต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมัน หวั่นอาคารพังถล่ม หลังโหมไหม้รุนแรง ภาพจากมุมสูงจะเห็นอาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3-4 ไร่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ของบริษัทประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำของ อบต.บ้านเกาะ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 20 คัน ฉีดน้ำสกัดเพลิงที่โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ควันสีดำพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า มีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ จุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงาน เนื่องจากมีเชื้อเพลิงไวไฟ ประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วจนอาคารเริ่มทรุดตัว มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงงาน 1 คน และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ไฟยังดับไม่สนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จึงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน ทั้งนี้ ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยจากตัวอาคารที่อาจพังถล่มลงมาได้ เนื่องจากถูกไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงจนเสียหายเกือบทั้งหมด คนงานเล่าว่าเพลิงลุกที่ท่อส่งน้ำมันที่ส่งไปยังเครื่องจักร ซึ่งใช้ในกระบวนการผลิตสินค้าประเภทยาง แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร […]

หนุ่มวัย 24 สารภาพผลักลูกเลี้ยงหัวฟาดพื้นดับ คุมทำแผนฯ

นนทบุรี 7 ก.ค. – ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงโหด ผลักลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ล้มศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต ทำแผนฯ หลังเค้นสอบกว่า 6 ชั่วโมง จนยอมรับ อ้างโมโหเด็กส่งเสียงดังรบกวน ตำรวจ สภ.บางบัวทอง คุมตัวนายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายร่างกาย “น้องขงเบ้ง” อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ลูกเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมให้การว่า เด็กส่งเสียงดังรบกวนจึงเกิดความโมโหผลักจนล้ม ทำให้บริเวณท้ายทอยกระแทกกับพื้น กระทั่งแน่นิ่งไป เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ส่วนบาดแผลรอยจ้ำตามร่างกายและบาดแผลอื่นๆ นายธนวัฒน์ยังไม่รับสารภาพ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอีกครั้ง แม่ของเด็ก อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนออกไปทำงานทุกวัน เวลา 4 โมงเย็น […]

“บิ๊กเต่า” เผย “สีกา ก.” ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ เลือกเหยื่อรวย-เข้าถึงง่าย

7 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เรียกประชุมแบ่งภารกิจให้กองใต้สังกัด สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยคืบหน้ากรณี “ทิดอาชว์” และนางสาว ก. เจ้าตัวยอมรับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย อ้างสำนึกผิด ยอมร่วมมือกับตำรวจ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับมา ความคืบหน้าในประเด็น อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ ทิดอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เจ้าคณะภาค 14-15 สายธรรมยุต มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาว ก. จนถูกแบล็กเมล์รีดไถ่เงิน 7.3 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุมวางแผนการทำงานในกรณีของทิดอาชว์และนางสาว ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณกว่า 3 ชั่วโมง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า วันนี้เป็นการเรียกประชุมกองงานต่าง ๆ เพื่อแบ่งสายงานมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวนนางสาว ก. และได้ข้อมูลมามากพอสมควร […]

Cambodia strongly rejects Thailand’s baseless claim over Ta Krabei Temple

กัมพูชาโต้ไทยอ้างปราสาทตาควายอยู่ในไทย

พนมเปญ 7 ก.ค.- กัมพูชาคัดค้านอย่างหนักว่า ไทยอ้างโดยไร้มูลว่า ปราสาทตาควายอยู่ในดินแดนไทย และตำหนิไทยว่าห้ามชาวกัมพูชาคล้องผ้าขาวม้าขึ้นปราสาทตาควาย เว็บไซตขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า กระทรวงกลาโหมแห่งชาติของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์แสดงความคัดค้านอย่างหนักต่อการกล่าวอ้างอย่างไร้มูลและโอหังของสื่อไทย เจ้าหน้าที่ทหารไทย และพลเรือนชาวไทยบางกลุ่มที่ว่า ปราสาทตาควายตั้งอยู่ในดินแดนอธิปไตยของไทย แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุว่า การกล่างอ้างดังกล่าวเป็นการบิดเบือนความจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะไทยอ้างแผนที่ฝ่ายเดียวที่ไม่มีคุณค่าทางกฎหมายตามหลักการกฎหมายสากล กัมพูชายืนยันว่า ในทางภูมิศาสตร์แล้วปราสาทตาควายตั้งอยู่ในเทือกเขาดงรัก อำเภอบันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรเมียนเจยหรืออุดรมีชัย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในดินแดนและอธิปไตยของกัมพูชา โดยเป็นไปตามกฎหมายที่ได้รับการรับรองจากสากล แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชายังระบุว่า ทหารไทยห้ามนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาคล้องผ้ากรอมาหรือผ้าขาวม้าติดธงชาติกัมพูชาขึ้นปราสาทตาควาย แต่กลับอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสวมเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับติดธงชาติไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงทวิภาคีที่เคยตกลงกันไว้.-814.-สำนักข่าวไทย