สโมสรทหารบก 9 ต.ค.- คลังย้ำกับเอกชนกรณีบังคับใชกฎหมายศุลกากรฉบับใหม่ ย้ำเป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงาน “การรับฟังคำชี้แจงการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560” เพื่อชี้แจงให้กับภาคเอกชนเข้าใจการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวในวันที่ 13 พ.ย.นี้ โดยจากเดิมจัดเก็บภาษีอัตราสูงร้อยละ 20-30 ลดเหลือไม่เกินร้อยละ 8-9 เพื่อเน้นอำนวยความสะดวกให้กับภาคเอกชน เมื่ออัตราภาษีน้อยละ แรงจูงใจให้หลีกเลี่ยงภาษีจึงน้อยลง นอกจากนี้ยังต้องประสานกระทรวงการต่างประเทศหารือกับเพื่อนบ้านร่วมกำหนดระเบียบให้ชัดเจนในการนำเข้าส่งออกสินค้าต่างๆ
นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า หลังจาก พ.ร.บ.กรมศุลกากร ฉบับใหม่เตรียมบังคับใช้เดือนพฤศจิกายนนี้ ได้ตั้งอนุกรรมการ 9 ชุด ยกร่างกฎหมายลูกมายังคับใช้ในทางปฎิบัติ จึงต้องชี้แจงกับเอกชนแนวทางปฎิบัติ โดยเฉพาะการจัดทำเขตฟรีโซนปลอดอากร เพื่อไม่ให้กระจายอยู่ทั่วประเทศ จนทำให้ควบคุมไม่ทั่วถึง จึงได้เน้นการจัดทำเขตปลอดอากรเฉพาะพื้นที่สนามบินหลัก เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือคลองเตย ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เขตเศรษฐกิจพิเศษตามที่รัฐบาลกำหนด เพื่อเน้น 5 พื้นที่หลัก โดยต้องมีระบบไอทีใช้ระบบตรวจปล่อยสินค้า เช่น หากส่งออกสินค้า เมื่อเครื่องบินกำลังจะออกเดินทางหรือกำลังบินเข้าประเทศ ส่งรายการสินค้ามาให้ทำการตรวจสอบ หากมีความเสี่ยงจะได้นำเข้าเครื่องเอ็กเรย์ และใช้ระบบคีย์ล็อกเป็นแบบอัตโนมัติ
สำหรับการอำนวยความสะดวกทางการค้า เพื่อสนับสนุนการลงทุนทำธุรกิจในประเทศไทย หรือ East of Doing Business เมื่อศุลกากรได้นำระบบ IT เข้ามาใช้งานมากขึ้นได้คะแนนเพิ่มจากร้อยละ 66 เพิ่มเป็นร้อยละ 86.25 เพื่อต้องการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และการสร้างความโปร่งใสในการทำงานของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ได้แก้ไขกฎหมายศุลกากรด้วยการปรับลดเงินสินบนรางวัล จากอัตราร้อยละ 55 ของเงินค่าขายของกลางหรือเงินค่าปรับ เหลือร้อยละ 20 สำหรับการกระทำผิดซึ่งหน้า และให้เงินรางวัลร้อยละ 20 สำหรับการตรวจพบการกระทำผิด ทั้งคดียาเสพติด หลีกเลี่ยงภาษี โดยไม่ใช่ความผิดจากงานด้านเอกสาร กำหนดวงเงินไว้ไม่เกินคดีละ 5 ล้านบาท รวมถึงมีการลดระยะเวลาในการประเมินอากรให้เหลือ 3 ปี การลดดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ให้น้อยลง การปรับลดกระบวนการทางกฎหมายดำเนินคดีต้องส่งฟ้องสรุปสำนวนให้ไม่เกิน 3 ปี เพื่อป้องกันเลี้ยงให้อ้วนทอดเวลาคดีให้นานทำให้เงินรางวัลค่าปรับสูง จากเดิมต้องใช้เวลาตรวจสอบนานถึง 20 ปี
ส่วนผลการจัดเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2560 จัดเก็บได้ 104,780 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายของรัฐบาลกำหนด 104,000 ล้านบาท กระทรวงคลังจึงกำหนดเป้าหมายในปี 61 ให้สูงกว่าเดิมยอด 110,000 ล้านบาท กรมศุลกากรจึงเตรียมการรองรับนโยบายใหม่ ด้วยการนัดประชุมติดตามผลการจัดเก็บภาษีทุก 2 สัปดาห์ เพื่อเน้นผลจัดเก็บให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเตรียมหารือร่วมกับจีน หลังจากข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.61 ไทยต้องลดภาษีนำเข้าจากร้อยละ 20-30 ลดเหลือร้อยละ 5 หรือยกเว้น จำนวน 700 รายการ เพื่อลดผลกระทบในกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เตารีด เครื่องใช้ไฟฟ้า ไมโครเวฟ ทีวี สินค้าเกษตรเช่น ข้าวสาวี มะเขือเทศ เพราะหากผู้นำเข้าใช้สิทธิ์การนำเข้าตามข้อตกลงอาเซียน-จีน ดังกล่าว ไทยจะสูญเสียรายได้อากรนำเข้าประมาณ 800 ล้านบาท.- สำนักข่าวไทย