ทำเนียบ 22 ก.ย.-“คารม” ขอ ปชช.ระวังสุขภาพ เตือนผู้ประกอบการโรงน้ำแข็งระวังก๊าซแอมโมเนียรั่วไหลช่วงฤดูร้อน เตรียมพร้อมส่งทีมปฏิบัติการอนามัยสิ่งแวดล้อมลงพื้นที่หากเกิดเหตุฉุกเฉิน
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในขณะนี้ ซึ่งปกติช่วงหน้าร้อนร้านค้าและประชาชนจะมีความต้องการบริโภคน้ำแข็งมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการเร่งผลิตน้ำแข็งให้ทันต่อความต้องการ และมักเกิดเหตุก๊าซแอมโมเนียรั่วไหล จากสถานประกอบกิจการประเภทการผลิตน้ำแข็ง และส่งผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยโดยรอบ กรมอนามัย ได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยมอบหมายให้ทีมปฏิบัติการอนามัยสิ่งแวดล้อม ของศูนย์อนามัยประสานไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่นที่รับผิดชอบ ควบคุม กำกับ และบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขในระดับพื้นที่ ดำเนินการตามมาตรการควบคุม ป้องกันภาวะฉุกเฉินจากก๊าซแอมโมเนียรั่วไหลจากสถานประกอบกิจการประเภทผลิตน้ำแข็ง ลดความเสี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน
สำหรับมาตรการควบคุม ป้องกัน และเฝ้าระวังเหตุฉุกเฉิน กรณีก๊าซแอมโมเนียรั่วไหลจากสถานประกอบกิจการผลิตน้ำแข็งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่ให้อนุญาตการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประเภทการผลิตน้ำแข็ง มีหนังสือแจ้งผู้ประกอบการทุกแห่ง เพื่อปฏิบัติตามมาตรการ 1) ตรวจตรา ควบคุม กระบวนการผลิตทุกขั้นตอนเป็นประจำทุกวัน โดยให้เฝ้าระวังเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตน้ำแข็ง ให้อยู่ในสภาพดี ไม่มีชำรุด เสียหาย หากพบความผิดปกติต้องเร่งให้มีการดูแล ซ่อมแซม ปรับปรุง สภาพให้ใช้งานได้ปกติ ทั้งนี้ ให้ผู้ประกอบการรายงานผลการตรวจตราระบบไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบอย่างต่อเนื่อง 2) ตรวจสอบระบบเส้นท่อส่งก๊าซแอมโมเนีย ถังบรรจุก๊าซ ตลอดจนอุปกรณ์ ระบบไฟฟ้า ระบบตรวจวัดแรงดัน ที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ โดยต้องอยู่ในสภาพดี ไม่มีการชำรุด แตกร้าว หรือมีความผิดปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลของก๊าซแอมโมเนีย 3) ประเมินความเสี่ยง ตรวจสอบระบบความปลอดภัย ของสถานประกอบกิจการให้มีประสิทธิภาพ เช่น ประสิทธิภาพของระบบดับเพลิง วันหมดอายุถังดับเพลิง และระบบเตือนภัยสำหรับพนักงานกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เป็นต้น 4) ตรวจสอบระบบบำบัดน้ำเสียของสถานประกอบกิจการผลิตน้ำแข็งให้มีการดำเนินการได้ตามปกติ และมีประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสีย และมีคุณภาพน้ำทิ้งให้เป็นไปตามมาตรฐาน รองรับการเกิดภาวะฉุกเฉินจากเหตุก๊าซแอมโมเนียรั่วไหล จัดทำแผนและทำการซ้อมแผนสำหรับพนักงานของสถานประกอบกิจการผลิตน้ำแข็ง รองรับกรณีเกิดภาวะฉุกเฉินจากก๊าซแอมโมเนียรั่วไหล โดยให้ส่งแผนรับมือภาวะฉุกเฉิน อาจเพิ่มความถี่ในการซ้อมแผน โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนและมี การเร่งผลิตน้ำแข็งที่มากขึ้นกว่าปกติ โดยมีการซ้อมการอพยพ แจ้งเตือนภัยภายในสถานประกอบกิจการและเตือนภัยประชาชนโดยรอบ
“รัฐบาลห่วงใยสุขภาพประชาชน และคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ เตรียมความพร้อมของทีมปฏิบัติการ โดยให้นำแนวทางการปฏิบัติงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม กรณีภาวะฉุกเฉินจากการรั่วไหล ระเบิด และเกิดเพลิงไหม้ของสารเคมี ไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ และจัดเตรียมเครื่องมือตรวจวัด วัสดุ อุปกรณ์ ชุดทดสอบภาคสนามสำหรับสนับสนุนการปฏิบัติการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมในกรณีเกิดเหตุภาวะฉุกเฉินก๊าซแอมโมเนียรั่วไหลจากสถานประกอบกิจการผลิตน้ำแข็ง ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ” นายคารม ระบุ .-316 -สำนักข่าวไทย